“ไทยรุ่งยูเนียนคาร์” คาดเป้ารายได้ปีนี้หด 10% เหตุอุตสาหกรรมยานยนต์หดตัว แนวโน้มตลาดรถยนต์อีโคคาร์เฟส 2 ยอดการขายไม่ดีตามที่คาดไว้ และราคาพลังงานผันผวน ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อรถยนต์ออกไป แย้มแผนร่วมทุนญี่ปุ่น 500 ล้านบาท คาดรู้ผลเดือนหน้า ช่วยให้บริษัทฯ กลับมามีกำไรในปี 58
นายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยรุ่งยูเนียนคาร์ หรือ TRU กล่าวว่า บริษัทฯ คาดว่าเป้ารายได้ในปีนี้จะลดลงไม่ต่ำกว่า 10% หรือจากปีก่อนที่ทำได้ 3,370 ล้านบาท ในปีที่แล้ว เนื่องจากสถานการณ์ตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์เริ่มเข้าสู่การชะลอตัว หลังจากที่โครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลหมดไป และแนวโน้มตลาดรถยนต์อีโคคาร์เฟส 2 ยอดการขายไม่ดีตามที่คาดไว้ ประกอบกับราคาพลังงานในตลาดที่มีความผันผวน จึงทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ชะลอการซื้อรถยนต์ออกไปก่อน แต่ทั้งนี้ก็ยังคงมีส่วนที่ดีจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ส่งผลให้เกิดสภาพคล่องในตลาดเพิ่มสูงขึ้น เพื่อเป็นแรงจูงใจในการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งสะท้อนอุปสงค์ออกมาอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ดี ในส่วนของอุตสาหกรรมการเกษตรในกลุ่มประเทศอาเซียนเริ่มมีความต้องการมากขึ้น จากยอดสั่งซื้อชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์เพื่อการเกษตรเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้รายได้ของบริษัทปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
“ความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทประสบปัญหาเนื่องจากลูกค้าของบริษัทบางส่วนประกอบอาชีพภาคเกษตรกรรม และไม่สามารถนำเงินมาจ่าย เนื่องจากราคาพืชผลเกษตรกรรมตกต่ำ และบางส่วนมีภาระจากโครงการจำนำข้าวที่ยังไม่สามารถนำใบประทวนไปขึ้นเงินเพื่อนำมาจ่ายได้ โดยยอดขายในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มียอดขายไม่เกิน 10% ซึ่งบริษัทฯ พยายามที่จะลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ดีขึ้น ทำให้จำนวนงานที่ผลิตได้มีจำนวนมากขึ้น”
อย่างไรก็ดี ภาพรวมมาร์จิ้นธุรกิจรถยนต์ของบริษัทปีนี้จะชะลอตัวลดลงอยู่ที่ 8% ทั้งในส่วนของการผลิตรถยนต์รุ่นทรานซ์ฟอร์เมอร์ และอะไหล่ชิ้นส่วนมอเตอร์ไซค์ ซึ่งตลาดรถยนต์โดยรวมในประเทศปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านคัน ทั้งนี้ ในส่วนของการเจรจาเพื่อหาข้อสรุปกับบริษัทญี่ปุ่นในการสร้างโรงงานผลิตตัวถังรถบรรทุก มูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท และการก่อสร้างโรงพิมพ์แม่แบบชิ้นส่วนยานยนต์ มูลค่าโครงการ 50 ล้านบาท คาดว่าจะทราบผลได้ในเดือนหน้า ซึ่งถ้าหากเจรจางานนี้ผ่านจะสามารถสร้างโรงงานเสร็จภายในปีนี้ และเริ่มเดินสายพานการผลิตได้ภายในต้นปีหน้า ทำให้บริษัทฯ กลับมามีรายได้จากธุรกิจเดิม และรายได้จากกลุ่ม มิกซ์ โปรดักต์ เพิ่มเข้ามามากขึ้น