ญี่ปุ่นขนเงินย้ายฐานการลงทุนหลังเศรษฐกิจไทยทรุด

“ปิ่นทอง อินดรัสเตรียลปาร์ค” ระบุเศรษฐกิจชะลอกระทบนักลงทุนญี่ปุ่นย้ายฐานการผลิตไปอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม เชื่อเป็นความกังวลระยะสั้น เตรียมเดินหน้าเปิดนิคมฯ แห่งใหม่ไตรมาส 3 ปีนี้

นายพีระ ปัทมวรกุลชัย ประธานกรรมการ บริษัท ปิ่นทอง อินดรัสเตรียลปาร์ค ยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยที่อยู่ในภาวะชะลอตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายใหญ่บางส่วน โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 80 ของจำนวนผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง ทยอยย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว โดยส่วนใหญ่ตัดสินใจย้ายไปลงทุนในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อสูง และมีข้อได้เปรียบด้านช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายจากการเป็นประเทศมุสลิม อย่างไรก็ตาม มองว่าสถานการณ์ความไม่สงบขณะนี้จะก่อให้เกิดความกังวลเพียงระยะสั้น เนื่องจากยังไม่เห็นสัญญาณชะลอตัวของภาพรวมการผลิตแต่อย่างใด

นายพีระ ยังกล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมจะขยายธุรกิจนิคมฯ ในพื้นที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และใกล้เคียงอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีนับจากนี้ โดยเน้นอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ / อิเล็กทรอนิกส์ / การขนส่ง / พลาสติก และบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก เนื่องจากมองว่าที่ตั้งใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งในภาคตะวันออก ยังสามารถจูงใจนักลงทุนรายใหม่ และผู้ประกอบการที่จะย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยได้ โดยคาดว่าการก่อสร้างนิคมฯ ปิ่นทองแห่งที่ 4 และ 5 ซึ่งจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปีนี้ จะสามารถดึงดูดนักลงทุนกลุ่มเดิมประมาณร้อยละ 70 และกลุ่มใหม่อีกร้อยละ 30 ให้เข้ามาดำเนินธุรกิจได้

สำหรับปี 2554-2556 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมกว่า 4 พันล้านบาท และคาดว่าการเปิดโครงการนิคมฯ ปิ่นทองที่ 4 และ 5 จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 4,800 ล้านบาท