xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนเผยการเมือง-พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำเศรษฐกิจพังแสนล้าน แนะรีบคุยหาทางจบก่อนจีดีพีปีนี้เจ๊งไม่เป็นท่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หอการค้าไทยเผยพิษการเมืองป่วน รัฐใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทำเศรษฐกิจเสียหายแล้ว 1 แสนล้านบาท แนะสองฝ่ายหันหน้าคุย อย่าตั้งแง่ ชี้หากปัญหาจบ ตั้งรัฐบาลได้ไม่เกินไตรมาส 3 ปีนี้ เศรษฐกิจยังโต 2-3% แต่ถ้าไม่จบปัญหารุนแรง เศรษฐกิจโต 0% ถึงขั้นติดลบ 2%


นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองและการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้ส่งผลกระทบต่อความเสียหายเศรษฐกิจไทยแล้วประมาณ 1 แสนล้านบาท หากต้องการจะยุติปัญหาและความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งสองฝ่าย ทั้งรัฐบาล และผู้ชุมนุม จะต้องเดินหน้าเจรจาเพื่อหาทางออกกันอีกครั้งโดยไม่มีการตั้งเงื่อนไขมาก่อนล่วงหน้า เพราะหากปล่อยให้ยืดเยื้อออกไปจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2557

“ประเมินว่าถ้าปัญหาการเมืองไม่รุนแรง และตั้งรัฐบาลได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ เศรษฐกิจจะขยายตัว 2-3% แต่ถ้าตั้งไม่ได้และเกิดเหตุรุนแรง เศรษฐกิจจะโตในระดับ 0% ถึงลบ 2% ซึ่งภาคเอกชนยังมองว่าโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะโตได้ 2-3% ยังมีโอกาสเป็นไปได้ ถ้าเงื่อนไขต่างๆ ได้ข้อยุติ” นายอิสระกล่าว

ทั้งนี้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น พบว่าธุรกิจท่องเที่ยวกระทบมากที่สุด ทัวร์ยกเลิกจำนวนมาก โดยเฉพาะจีนยกเลิก 50% ญี่ปุ่น 40% และเกาหลี 30% รวมถึงนักท่องเที่ยวจากอินเดีย ไต้หวัน และเวียดนาม จนกระทบต่อธุรกิจโรงแรม ทำให้ยอดจองห้องพักลดลงเฉลี่ย 25-30% และยังกระทบต่อเนื่องถึงธุรกิจอื่นๆ เช่น อัญมณียอดขายลดลง 30% รวมถึงสปา รถเช่า สินค้าที่ระลึก การจัดงานประชุมสัมมนาภายในประเทศด้วย

สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบปานกลาง เช่น อสังหาริมทรัพย์ แม้รายใหญ่จะยังขายได้ แต่รายกลางและเล็กได้รับผลกระทบจากการชะลอการซื้อของผู้บริโภคและเลื่อนการโอนกรรมสิทธิ์ประมาณ 5-10% ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศลดลง 15% จากการลดเที่ยวบินของสายการบิน

ส่วนในด้านการลงทุนก็ได้รับผลกระทบจากการที่ไม่สามารถตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนชุดใหม่ได้ ทำให้มีโครงการที่รอการอนุมัติเป็นมูลค่า 5-6 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการต่างชาติบางรายไม่สามารถรอความชัดเจนสถานการณ์ทางการเมืองในไทยได้ จึงย้ายไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านแทน ทั้งในส่วนของนักลงทุนยุโรปและนักลงทุนญี่ปุ่นรายใหม่ๆ

อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าการส่งออกของไทยในปี 2557 ที่ตั้งเป้าขยายตัว 5% จะยังคงทำได้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและคู่ค้าโดยรวมปรับตัวดีขึ้น สินค้าหลายประเภทมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าเข้ามาแล้ว แต่เพื่อเป็นการผลักดันให้มีการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เอกชนจะผลักดันให้ผู้ประกอบการและภาครัฐเน้นการส่งเสริมการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งช่วยดูแลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนให้มีเสถียรภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น