xs
xsm
sm
md
lg

ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุร่าง พ.ร.บ. 2 ล้านล้านขัดรัฐธรรมนูญไม่กระทบการลงทุนต่างชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุร่าง พ.ร.บ. 2 ล้านล้านขัดรัฐธรรมนูญไม่กระทบการลงทุนต่างชาติ จับตาจีดีพีประเทศ และการลดขนาดคิวอี กระทบการลงทุนปีนี้

นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวถึงผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีมติให้ร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ 2 ล้านล้านบาท หรือ ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน ที่มติชี้ว่าขัดรัฐธรรมนูญ ว่า จะไม่กระทบต่อภาพรวมการลงทุนของต่างชาติมากนัก เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนคาดการณ์ไว้แล้วว่าข้อสรุปจะออกมาในลักษณะนี้ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะต้องล่าช้าออกไป เห็นได้จากการปรับลดของราคาหุ้นในกลุ่มก่อสร้างช่วงปลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งมองว่า หุ้นในกลุ่มส่งออกที่จะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะสามารถทดแทนปัจจัยลบดังกล่าวได้ ขณะที่การบริโภคภายในประเทศช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งเป็นผลจากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งก่อนลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.25

อย่างไรก็ตาม มองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกร้อยละ 0.25 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา จะไม่ส่งผลทั้งในทางลบ และทางบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก กนง. ได้ใช้มาตรการลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมาแล้วหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา โดยสิ่งที่ต้องจับตาว่าจะกระทบต่อภาคการลงทุนปีนี้ คือ ตัวเลขจีดีพีของประเทศ/ความเปราะบางของเศรษฐกิจในภูมิภาค และการลดขนาดมาตรการอัดฉีดเงิน หรือคิวอี ของสหรัฐมากกว่า

ด้าน นายกิตติ สุทธิอรรถศิลป์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร ตลท. ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2535 จนถึงปัจจุบัน ไทยต้องเผชิญกับวิกฤตทางการเมืองครั้งใหญ่ถึง 4 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งแม้จะส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง แต่ใช้เวลาเพียงไม่นานก็จะกลับมาอยู่ในระดับเดิม เช่นครั้งนี้ ที่สถานการณ์ยืดเยื้อมานานถึง 4 เดือน แต่สภาพคล่องทางการเงินของไทยยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค โดยขณะนี้ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นมาแล้วร้อยละ 60-70 นับตั้งแต่เริ่มได้รับผลกระทบจากการชุมนุมแรกๆ และมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับสูงขึ้นร้อยละ 4.01 จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 1,325.33 จุด โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากรายงานกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปี 2556 ที่ปรับตัวดีขึ้น / การเลือกตั้งที่ผ่านไปโดยไม่มีเหตุรุนแรง และความกังวลของนักลงทุนต่อปัญหาเสถียรภาพเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ที่เริ่มคลี่คลาย ซึ่งส่วนใหญ่เน้นซื้อขายหลักทรัพย์ขนาดเล็กถึงขนาดกลางในกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทยมีส่วนทำให้นักลงทุนต่างประเทศยังคงขายสุทธิที่ 21,345 ล้านบาท แต่มีแนวโน้มขายหลักทรัพย์สุทธิลดลงเมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 2556
กำลังโหลดความคิดเห็น