xs
xsm
sm
md
lg

“เคทีบี-ทีเอ็มบี” ปรับลดเป้าสินเชื่อปี 57 เชื่อโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไม่สะดุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ธ.กรุงไทย” เล็งปรับลดเป้าสินเชื่อปีนี้เหลือโตแค่ 4.5% จากเดิมคาด 7-10% ประเมินจีดีพีปีนี้อยู่ระดับ 3.2% ขณะที่ “ธ.ทหารไทย” หั่นเป้าสินเชื่อปีนี้เหลือโตแค่ 8% จากเดิมที่คาดโตไม่ต่ำกว่า 10% พร้อมคาดจีดีพีปีนี้โต 2.9% พร้อมเชื่อโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานยังเดินหน้าต่อไปได้ เพราะทุกฝ่ายไม่คัดค้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่คัดค้านแผนการก่อหนี้ของรัฐบาล

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับลดเป้าสินเชื่อในปีนี้เหลือโต 8% จากเดิมที่คาดว่าจะโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% บนพื้นฐานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่คาดว่าจะโตได้ 3-4% แต่ล่าสุด คาดว่า GDP ปีนี้อาจจะปรับลดลงเหลือ 2.9% เท่านั้น

สาเหตุที่มองว่า GDP ปีนี้จะปรับลดลงมาจากปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ รวมทั้งร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... (พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท) เป็นอันต้องตกไป หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ ประกอบกับผลของการเมืองในประเทศทำให้การบริโภค และการผลิตชะลอตัวลงด้วย

แต่ทั้งนี้มองว่าภาคการส่งออกจะยังเป็นแรงหนุนช่วยให้ GDP ปีนี้เติบโตได้ โดยคาดว่าปีนี้การส่งออกไทยจะเติบโตได้ราว 5% หลังเห็นสัญญาณของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจจีน ก็ยังน่าจะเติบโตได้ จึงไม่มีความกังวลในจุดนี้

สำหรับกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จากระดับ 2.25% มาอยู่ที่ 2.00% นั้น ทาง TMB กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในระดับเท่าใด ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับสภาพคล่องของธนาคารด้วย

ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองได้ส่งผลกระทบต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงเดือน ก.พ.57 เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น เพราะการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัวทำให้ภาคธุรกิจ และประชาชนมีรายได้จากส่วนนี้เข้ามา

ด้านนายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) หรือ KTB ยอมรับว่า ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวคงต้องปรับลดเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อของธนาคารให้สอดคล้องกับทิศทางอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศ โดยเดิมคาดว่าจีพีดีขยายตัว 4.5% แต่ขณะนี้ได้ปรับลดเหลือ 3.2% จึงเชื่อว่าทำให้การขยายตัวของสินเชื่อลดเหลือประมาณ 4.5% เพื่อให้เติบโตมากกว่าจีดีพี 1.5 เท่า จากเดิมตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อเติบโต 7-10%

“การใช้จ่ายคงจะชะลอตัวไปถึงครึ่งปีหลัง แต่หลังจากมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารแล้วจะขับเคลื่อนการลงทุน ทำให้การปล่อยสินเชื่อทำงานไปเหมือนปกติ”

นายวรภัค กล่าวว่า ธนาคารพร้อมปรับลดดอกเบี้ยลงเพื่อสอดคล้องกับสัญญาณที่ส่งมาจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 2% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมองว่าอัตราดอกเบี้ยลดลงจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง เพื่อทดแทนการลงทุนภาครัฐ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาดหุ้น และนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศ

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานยังคงเดินหน้าต่อไปได้ผ่านการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีตามปกติ เพื่อไม่ให้โครงการลงทุนสะดุดลง ดังนั้น หากมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ควรเดินหน้าโครงการดังกล่าวอย่างเต็มที่ เนื่องด้วยทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายต่างๆ ไม่คัดค้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่คัดค้านแผนการก่อหนี้ของรัฐบาล

นอกจากนั้น ยังมองว่าเศรษฐกิจของไทยยังมีหวังพื้นตัวตามเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว จึงลดกระแสขาดความเชื่อมั่นลงได้บ้าง เพราะเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นจากการส่งออกได้อีกทางหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น