ชี้ปี 57ตลาดยังเป็นของผู้ซื้อ เชื่ออสังหาฯ เร่งระบายสต๊อกอัดแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อ ส่งผลตลาดแข่งดุ เตือนผู้ประกอบการรักษากระแสเงินสดอย่างหวังพึ่งยอดขายมาใช้ในงานก่อสร้าง-บริหารองค์กร คาดสถานการณ์เลวร้ายสุด ทั้งปีอสังหาฯ เปิดตัว 50% ของปี 56 ด้านธนาพัฒน์ฯ เผยแผนปี 57 เล็งผุด 2-3 โครงการใหม่ รอสถานการณ์การเมืองสงบเปิตัวทันที แจงยอดขายปี 56 กว่า 791 ล้านบาท รับรู้รายได้ 928 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 57 ยอดขายที่ 1,050 ล้านบาท รับรู้รายได้ 1,400 ล้านบาท
นายดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP เปิดเผยว่า ปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนปรับตัวสูง และการเมืองที่ร้อนแรงทำให้เกิดการชะลอการซื้อของผู้บริโภค ทำให้ซัปพลายที่อยู่อาศัยจำนวนมากในปี 2556 ยังตกค้างในมือผู้ประกอบการอีกไม่น้อย ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2557 จะกลายเป็นตลาดของผู้ซื้ออีกปีหนึ่ง
เนื่องจากผู้ประกอบการจะต้องมีการเร่งระบายสินค้าในมือออกมา ซึ่งเชื่อว่าจะมีการลดราคาขายสินค้าเพื่อระบายออกไป 5-10% รวมถือการจัดแคมเปญพิเศษกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้ตลาดมีการแข่งขันรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จำนวนซัปพลายที่ยังตกค้างในตลาดจำนวนมากจะทำให้ในปีนี้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง โดยส่วนตัวมองว่าในกรณีที่สถานการณ์การเมืองไม่คลี่คลายภายในครึ่งปีนี้ ตลาดจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก และทำให้มีโครงการเปิดตัวใหม่ลดลงเหลือเพียง 50% ของปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หากตลาดรวมยังไม่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัวเพื่อรองรับสถานการณ์ตลาดหดตัวใน 2 ส่วนคือ การเร่งระบาสต๊อก และการสำรองกระแสเงินสดเพื่อใช้ในการบริหารงานในองค์กรในระยะยาว และงานก่อสร้างโครงการใหม่ และโครงดารที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยไม่หัวงพึ่งรายได้จากการขาย เพื่อให้องค์การ และงานก่อสร้างโครงการที่ค้างอยู่สามารถดำเนินการต่อจนแล้วเสร็จไปได้
สำหรับการดำเนินงานในปี 2557 นี้ ธนาพัฒน์ฯ มีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 2-3 โครงการ แบ่งเป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น ขนาด 20-22ตารางวา ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาทขึ้นไป ในย่านลาดพร้าว 2 โครงการ โดยมูลค่าต่อโครงการอยู่ที่ 400 ล้านบาท สำหรับโครงการใหม่นี้จะยังนำโมเดลโครงการเจด พระราม 3 มาพัฒนาต่อยอด ภายใต้แบรนด์สินค้าใหม่ โดยทั้ง 2 โครงการใหม่คาดว่าจะใช้พื้นที่ในการพัฒนากว่า 10 ไร่ ล่าสุด บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน
“คาดว่าหากสถานการณ์การเมืองจบเร็ว จะทำให้สามารถเปิดตัวโครงการใหม่ได้ในปลายไตรมาส3 ต้นไตรมาส 4 แต่ถ้าหากการเมืองยังไม่สามารถคลี่คลายลงได้ บริษัทอาจจะต้องเลื่อนการเปิดตัวออกไปอีก”
ส่วนอีก 1 โครงการที่เหลือ คาดว่าจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น 2-3อาคาร จำนวน 1,000 ยูนิตขึ้นไป ระดับราคาเริ่มต้น 1-1.5 ล้านบาท หรือมีมูลค่า 1,000-1,500 ล้านบาท ในย่านที่มีแหล่งชุมชน โดยจะเลือกทำเลใกล้ชุมชน ไม่จำเป็นต้องติดรถไฟฟ้า โดยบรัทอยู่ระหว่างการจัดหาที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการ โดยขนาดที่ดินที่จะใช้ในการพัฒนาคอนโดฯ ดังกล่าวคาดว่าจะใช้พื้นที่ประมาณ 4-5 ไร่ คาดว่าหากสถานการณ์เอื้อำนวยจะสามารถเปิดตัวได้ในปีนี้
“อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในด้านยอดขาย ในเดือน พ.ค.นี้ จะเปิดเฟสที่ 2 ของโครงการ “เจด” พระราม 3 ซึ่งเป็นทาวน์โฮม 4 ชั้น ขนาด 20-30 ตารางวา ราคา 13-16 ล้านบาท จำนวนกว่า 30 ยูนิต หลังจากที่ในเฟสแรกมียอดขายแล้ว 25 ยูนิต จาก 35 ยูนิต ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 12.7-26 ล้านบาท หรือมีมูลค่าโครงการรวม 970 ล้านบาท
สำหรับโครงการซิม วิภา คอนโดไฮไรส์ 728 ยูนิต มูลค่า 2,300 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้ว95% โดยห้องชุดที่เหลือขายอีก 5% หรือประมาณมูลค่า 200-300 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นห้องขนาด 50 ตารางเมตรขึ้นไป ระดับราคา 5-9 ล้านบาทขึ้นไป คาดว่าจะปิดการขายทั้งหมดได้ในปีนี้
ทั้งนี้ ในปี 2556 ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้ 791 ล้านบาท และรับรู้รายได้ 928 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 1,345 ล้านบาทเล็กน้อย เนื่องจากยอดขายโครงการ “ซิม วิภา” ไม่เป็นไปตามเป้า ส่วนในปี 2557 นี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายที่ 1,050 ล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้ 1,400 ล้านบาท จากยอดโอนโครงการซิม วิภา และโครงการทาวน์โฮม เจด พระราม 3
