xs
xsm
sm
md
lg

ไนท์แฟรงค์ฯ เผยชุมนุมการเมืองกระทบตลาดคอนโดฯ กทม.-เมืองท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ไนท์แฟรงค์” เผยการชุมนุมใน กทม.กระเทือนตลาดคอนโดฯ ทั้งในกรุงเทพ-เมืองตากอากาศพัทยา ภูเก็ต หลังผู้บริโภคเบรกซื้อห้องชุดเพื่อรอสถานการณ์คลี่คลาย ขณะที่หัวหินกระทบหนัก ทั้งซัปพลายล้น แถมดีมานด์ชะลอตัว

นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดคอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพฯ เนื่องจากผู้บริโภคชะลอการซื้อเพื่อให้สถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายก่อน

ส่วนตลาดหัวหิน ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักเป็นชาวไทย ประกอบกับในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นจำนวนมากเกินไปจนทำให้เกิดการชะลอตัว

“บางโครงการมียูนิตจำนวนมาก ทำให้ภาพรวมไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก การแข่งขันอาจจะรุนแรงขึ้น แต่ก็ทำให้ผู้ซื้อมีตัวเลือกมากขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งหัวหิน และชะอำได้รับผลกระทบจากโครงการอย่างเช่น The Energy ซึ่งมีจำนวนยูนิตมากถึง 6,000 ยูนิต ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อุปทานพุ่งสูงกว่าอุปสงค์ ในขณะที่ผู้พัฒนาโครงการรายอื่นๆ จะสร้างโครงการที่มีขนาดเพียง 200-300 ยูนิตเท่านั้น” นายพนมกล่าว

แม้ว่าสถานการณ์ต่างๆ จะไม่เอื้ออำนวย แต่ระดับราคาของคอนโดมิเนียมก็ไม่ได้ตกลงมาก เนื่อง จากเป็นโครงการใหม่ ไม่ใช่ยูนิตที่นำมาขายต่อ และผู้พัฒนาโครงการเองก็ไม่สามารถสร้างโดยทำราคาต่ำกว่านี้ได้อีกแล้วเช่นกัน นอกจากนี้ ผู้พัฒนาโครงการส่วนมากเลือกที่จะไม่ทำสงครามราคากันเพื่อกระตุ้นตลาด

นายพนม กล่าวต่อว่า ด้วยสถานการณ์ทางด้านการเมืองที่ยังคงไม่แน่นอนอยู่ในขณะนี้ การเปิดตัวโครงการใหม่ต่างๆ จึงไม่น่าจะมีมากนัก ผู้ประกอบการที่กำลังคิดวางแผนสร้างโครงการบ้างก็ไม่สามารถซื้อที่ดินติดหาดได้ หรือไม่สามารถจ่ายราคาค่าที่ดินแปลงที่มีขายได้ เนื่องจากราคาที่ดินมีราคาสูงมาก ผู้พัฒนาโครงการจึงมองเล็งหาทำเลไปทางเขาเต่า แต่พื้นที่ในบริเวณดังกล่าวเองก็ขาดสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก และร้านอาหารต่างๆ

ในขณะนี้ตลาดผู้ซื้อชาวต่างชาติของหัวหิน และชะอำที่มีขนาดเล็กนั้นไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แต่ตลาดพัทยา และภูเก็ต กลับมีสถานะตรงกันข้าม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการชุมนุมในกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน สำหรับผู้ซื้อชาวต่างชาติในตลาดพัทยาเป็นชาวรัสเซีย นอกจากนั้น จะเป็นกลุ่มตะวันออกกลาง และชาวอินเดีย ชาวต่างชาติที่ซื้อคอนโดฯ ที่ภูเก็ต อย่างเช่นในบริเวณหาดป่าตองไม่ได้ใช้จ่ายเงินมากนัก โดยมีสนนราคาเฉลี่ยประมาณ 5-10 ล้านบาท ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มไฮเอนด์ แต่เป็นคนที่ต้องการมีบ้านพักตากอากาศในช่วงฤดูหนาว และหวังจะได้รับค่าเช่าจากเงินลงทุนบ้างในช่วงเดือนอื่นๆ ของปี

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพัทยา และหัวหินมีโครงการคอนโดฯ จำนวนมากแล้ว ผู้ประกอบการบางรายจึงเริ่มหันไปทางเขาใหญ่ หากผู้ประกอบหารรายแรกๆ ที่ไปปักหมุดมีแนวโน้มประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ก็จะแห่กันมา หากไม่ประสบความสำเร็จก็ยังสามารถทำโรงแรมภายในโครงการขึ้นมาได้ ดังนั้น จึงต้องจับตาดูว่าตลาดจะไปในทิศทางใด จำนวนโครงการจะเพิ่มมากขึ้นหรือน้อยลง

“คงไม่แปลกหากจะกล่าวว่า ตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบจากการประท้วง เพราะทั้งชาวกรุงเทพฯ เอง และชาวต่างชาติล้วนแล้วแต่พับแผนการซื้อไปก่อนแล้วทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อว่าควรใช้ความระมัดระวังในการลงทุนในคอนโดฯ ระดับราคาประหยัดในย่านชานเมืองโดยเฉพาะทางด้านสุขุมวิทตอนปลาย และบางใหญ่ โดยโซนซีบีดีชั้นนอก 2 โซนอย่างเช่นรัชดาภิเษก และพหลโยธินนั้นดูจะมีความเสถียรมากกว่าในเวลานี้”
กำลังโหลดความคิดเห็น