ตลาดฯ กังวลตัวเลขส่งออกยังติดลบ แนวโน้มพร่งนี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์

หุ้นไทยปิดบวก 2 จุด ดัชนีแกว่งผันผวนในกรอบ เจอแรงขายทำกำไรหลังประกาศงบ Q4/56 โบรกฯ เผยนักลงทุนกังวลตัวเลขส่งออก ม.ค. ที่ประกาศออกมายังติดลบ สะท้อน ศก. ชะลอตัวยาว ขณะที่การเมืองยังกดดัน แนวรบกระจายสู่ ตจว. เกิดเหตุเผชิญหน้า และความรุนแรงบ่อยขึ้น แนวโน้มพร่งนี้แกว่งไซด์เวย์

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (25 ก.พ.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,303.88 จุด เพิ่มขึ้น 2.50 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.19% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบางบางเพียง 21,933.97 ล้านบาท โดยภาพรวมวันนี้ ดัชนีค่อนข้างผันผวนในกรอบ แม้ช่วงเช้าจะปรับขึ้นไปได้กว่า 10 จุด แต่ในช่วงบ่ายกลับเจอแรงขายทำกำไรฉุดดัชนีปรับลงในแดนลบ ก่อนมีแรงซื้อเข้ามาพยุงตลาดฯ

ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนวันนี้ นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 607 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 41 ล้านบาท นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 693 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 126 ล้านบาท

นักวิเคราะห์ยอมรับว่า ตลาดภาคบ่ายมีการอ่อนตัวลงจากแรงขายทำกำไร หลังการประกาศงบไตรมาส 4/2556 เพราะการปรับตัวขึ้นเมื่อเช้านี้จะเห็นได้ว่าเป็นรายตัว ซึ่งกองทุนพยายามจะยันไว้คงจะขายหุ้นออกมา เพราะ upside ต่ำ เนื่องจากการเมืองยังมีความไม่แน่นอนอยู่

โดยในวันที่ 27 ก.พ.นี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีการชี้มูลความผิดของนายกรัฐมนตรี และการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดง กับกลุ่ม กปปส.คงจะแรงขึ้นในต่างจังหวัด ดังนั้น ตลาดฯ มาในเชิงลบอยู่แล้ว

ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานข่าวว่า ดัชนี CSI300 ของหุ้น A-share ในตลาดเซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้นปิดทรุด 2.6% สู่ 2,157.9 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงภายในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค.2013 หรือในรอบ 7 เดือน และดัชนีคอมโพสิต ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ปิดร่วง 2% มาที่ 2,034.2 จุด

ทั้งนี้ ดัชนีทั้ง 2 ร่วงลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งเป็นผลจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการควบคุมการปล่อยกู้ภาคอสังหาริมทรัพย์ และการอ่อนค่าลงอย่างรุนแรงของค่าเงินหยวน

ด้านค่าเงินหยวนในตลาดสปอตร่วงลงต่ำกว่าค่ากลางเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือน ก.ย.2012 ในวันนี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ และเทรดเดอร์คาดว่า ธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดเพื่อเพิ่มความผันผวนให้แก่หยวนในการเตรียมพร้อมรับการปฏิรูป

ด้านนายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวขึ้นได้ในลักษณะทรงตัว หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน ม.ค.ออกมาขยายตัวลดลง 1.98% ส่งผลต่อยอดขาดดุลการค้าอยู่ที่ 2,521 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าการส่งออกยังหดตัวอยู่

“ทิศทางวันนี้ดัชนีแกว่งตัวขึ้นในช่วงเช้า และช่วงบ่ายเริ่มทรงตัว ซึ่งพอมีการประกาศตัวเลขส่งออกที่ไม่เติบโตในเดือน ม.ค.และยอดขาดดุลการค้าที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องของเศรษฐกิจที่ต่างประเทศก็ไม่ได้ช่วย ขณะที่ภาคการค้าระหว่างประเทศถือว่าเป็นความหวังสำหรับการคาดหวังการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว แต่ปรากฏว่า เดือน ม.ค.การส่งออกสุทธิยังหดตัวอยู่ ก็คงต้องดูต่อไปว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าปีนี้จะโตได้ 5% จะเป็นไปได้หรือไม่ จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่มีแรงเทขายออกมา นอกเหนือจากปัจจัยการเมืองที่ยังไม่ชัดเจน” นายธนเดช กล่าว

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดว่าตลาดฯ น่าจะแกว่งไซด์เวย์ ซึ่งคงจะรับผลต่อเนื่องจากตัวเลขการส่งออกที่ขยายตัวลดลง เป็นการตอกย้ำเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งก็เป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจในต่างประเทศเริ่มเห็นการฟื้นตัว พร้อมให้แนวรับ 1,290 จุด และแนวต้าน 1,320 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,172.69 ล้านบาท ปิดที่ 288.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 993.71 ล้านบาท ปิดที่ 184.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 984.64 ล้านบาท ปิดที่ 207.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 886.06 ล้านบาท ปิดที่ 71.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 725.62 ล้านบาท ปิดที่ 7.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท