หุ้นภาคบ่ายผันผวน แรงขายทำกำไรฉุดดัชนีทรุดลงแดนลบ โบรกฯ ยอมรับการปรับตัวขึ้นเมื่อเช้านี้จะเห็นได้ว่าเป็นรายตัว ซึ่งกองทุนพยายามจะยันไว้ คงจะขายหุ้นออกมาเพราะ upside ต่ำ เนื่องจากการเมืองยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ขณะที่ตลาดหุ้นจีนปิดดิ่งหนักสุดในรอบ 7 เดือน หวั่นคุมปล่อยกู้ภาคอสังหาฯ เงินหยวนอ่อนค่า อาจกดดันตลาดหุ้นในภูมิภาค
ภาวะตลาดหุ้นภาคบ่าย (25 ก.พ.) ดัชนีแกว่งผันผวน โดยมีแรงเทขายทำกำไรฉุดดัชนีทรุดลงในแดนลบ โดยเมื่อเวลา 15.00 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,300.77 จุด ลดลง 0.61 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.05% มุลค่าการซื้อขาย 13,935.71 ล้านบาท
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ยอมรับว่า ตลาดภาคบ่ายมีการอ่อนตัวลงจากแรงขายทำกำไร เพราะการปรับตัวขึ้นเมื่อเช้านี้จะเห็นได้ว่าเป็นรายตัว ซึ่งกองทุนพยายามจะยันไว้ คงจะขายหุ้นออกมาเพราะ upside ต่ำ เนื่องจากการเมืองยังมีความไม่แน่นอนอยู่
โดยในวันที่ 27 ก.พ.นี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีการชี้มูลความผิดของนายกรัฐมนตรี และการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดง กับกลุ่ม กปปส.คงจะแรงขึ้นในต่างจังหวัด ดังนั้น ตลาดฯ มาในเชิงลบอยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานข่าวว่า ดัชนี CSI300 ของหุ้น A-share ในตลาดเซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้นปิดทรุด 2.6% สู่ 2,157.9 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงภายในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค.2013 หรือในรอบ 7 เดือน และดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ปิดร่วง 2% มาที่ 2,034.2 จุด
ทั้งนี้ ดัชนีทั้ง 2 ร่วงลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งเป็นผลจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการควบคุมการปล่อยกู้ภาคอสังหาริมทรัพย์ และการอ่อนค่าลงอย่างรุนแรงของค่าเงินหยวน
ด้านค่าเงินหยวนในตลาดสปอต ร่วงลงต่ำกว่าค่ากลางเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ย.2012 ในวันนี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ และเทรดเดอร์คาดว่า ธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดเพื่อเพิ่มความผันผวนให้แก่หยวนในการเตรียมพร้อมรับการปฏิรูป