xs
xsm
sm
md
lg

การเมืองระอุอสังหาฯ ชะลอลงทุน จับตาการเมืองรอประเมินผลกระทบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อสังหาฯ จับตาสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด พร้อมชะลอแผนลงทุนรอประเมินสถานการณ์การเมืองกระทบเศรษฐกิจ ก่อนกำหนดแผนลงทุน ทิศทางธุรกิจหลังการเมืองคลี่คลาย ระบุปลายปีอสังหาฯ ชะลอตัวหนัก ชี้ตัวเลขยอดขาย ผู้เข้าชมงานมหกรรมบ้านและคอนโดสะท้อนการหดตัวตลาดอสังหาฯ อย่างดี ด้านแหล่งข่าวอสังหาฯ แนะทางออกการเมือง ออกกฎสกรีนนักการเมือง ผู้จะเข้าสู่การเมืองต้องชี้แจงที่มาของทรัพย์สินได้ พร้อมออกกฎหมายเอาผิดนักการเมืองทำกระทำผิดต้องรับโทษ 2 เท่าของประชาชน

นายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ นับตั้งแต่มีการชุมนุมทางการเมืองมากว่า 1 เดือนเศษ ทำให้ความต้องการ และการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าอย่างมาก สังเกตจากตัวเลขของยอดการซื้อ และผู้ชมงานมหกรรมบ้านและคอนโด ในช่วงที่ผ่านมา ที่ลดต่ำลงกว่าครั้งก่อนหน้า ซึ่งจากการติดตามยอดขายของบริษัทที่ร่วมออกบูทในงานพบว่ายอดซื้อหลังงานยังคงไม่กระเตื้องขึ้น โดยยังมีตัวเลขยอดขายรวมที่ต่ำกว่ายอดขายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด จากที่ปกติกตัวเลขยอดขายหลังการจัดงานจะสูงกว่ายอดขายในงาน เพราะมีการลงทุนเบียนของลูกค้า และมีการติดตามลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ผู้ประกอบการบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ได้มีการชะลอการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ และจับตามองสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยอย่างไร เนื่องจากโดยปกติแล้วตลาดอสังหาฯ จะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจเร็วมาก แต่ในช่วงการฟื้นตัวจะมีการฟื้นตัวหลังธุรกิจอื่นๆ หรือช้ากว่าธุรกิจอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบชัดเจนแล้ว คือ ธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องจากมีหลายๆ ประเทศเตือนประชาชนของตนเองที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้ว

“การจับตามองสถานการณ์การเมืองของผู้ประกอบการ ทำให้เกิดการชะลอการลงทุนโครงการใหม่ๆ เพราะผู้ประกอบการต้องประเมินสถานการณ์การเมืองว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด และนำมาประเมินสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ อีกครั้งหนึ่ง เพื่อกำหนดแผนการลงทุนในอนาคต”

ด้านแหล่งข่าวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ กล่าวถึงสถารณ์การเมือง และเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาว่า การเมืองของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาเป็นการเมืองที่ใช้ทุนขนาดใหญ่ปูทางเข้าสู่การเมือง และใช้นโยบายประชานิยม โดยการทุ่มเม็ดเงินผ่านนโยบายต่างๆ เพื่อเอาใจกลุ่มคนรากหญ่า ทำให้ได้นักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศเป็นกลุ่มคนที่ลงทุนในการเลือกตั้งเพื่อให้ได้เข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรเพื่อถอนทุนคืน

“เปรียบเสมือนนักการเมือง เป็นพนักงานบริษัทของบริษัทขนาดใหญ่บริษัทหนึ่ง เมื่อเจ้านายมีนโยบายอย่างไรก็ต้องทำตามนโยบายเพื่อเอาใจนาย ปัญหาที่ตามมา คือ การเกิดการทุจริตคอร์รัปชัน”

ทั้งนี้ แนวทางการแก้ปัญหา คือ การสกรีนคนที่จะเข้ามาเป็นนักการเมือง โดยการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินก่อนที่จะเข้ามาเป็นนักการเมือง เพื่อเป้นการป้องกันนักการเมืองที่ลงทุนเข้ามาหาประโยชน์ โดยผู้ถูกตรวจสอบจะต้องแสดง หรือพิสูจน์ทรัพย์สินทางการเงิน และการได้มาซึ่งทรัพย์สิน หากไม่สามารถพิสูจน์ได้ก็จะถูกตัดสิทธิไป นอกจากนี้ ต้องมีการกำหนดในกฎหมายว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่กระทำผิดจะต้องได้รับโทษสูงกว่าประชาชนธรรมดาเป็น 2 เท่า ซึ่งจะเป็นการป้องปรามในอีกด้านหนึ่ง ทำให้ได้คนเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่เป็นคนดี

“การสกรีนคนเข้าสู่การเมืองนี้จะช่วยแก้ปัญหาการซื้อเสียง และเป็นการป้องกันนักการเมืองที่ลงทุนซื้อเสียงเพื่อเข้ามาถอนทุนทางการเมือง ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหารการเดินขบวนต่อต้านทางการเมืองที่ซ้ำซาก”
กำลังโหลดความคิดเห็น