หุ้นปิดเช้าลบ 14.07 จุด จากสถานการณ์ความตึงเครียดปัญหาการเมือง โบรกฯ คาดการเมืองจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้รัฐบาลคืนอำนวจแก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด และเรียกความเชื่อมั่นนานาชาติให้กลับมา ส่วนแนวโน้มดัชนีฯ ภาคบ่าย มีโอกาสผันผวนแกว่งตัวลบต่อเนื่อง
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (6 ธ.ค.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,362.56 จุด ลดลง -14.07 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.02% มูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 13,711.650 ล้านบาท เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย นักวิเคราะห์คาดยังมีความกังวลความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังอยู่ในภาวะตึงเครียด ส่งผลนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อเลี่ยงความเสี่ยงในระยะนี้
โดยหุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 148 หลักทรัพย์ ลดลง 463 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 175 หลักทรัพย์
5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด
ADVANC ปิดที่ 219.00 ลดลง -4.00 คิดเป็น -1.79% มูลค่าการซื้อขาย 1,371,947 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 153.50 ลดลง -2.50 คิดเป็น-1.60% มูลค่าการซื้อขาย 806,157 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 165.50 ลดลง -2.00 คิดเป็น -1.19% มูลค่าการซื้อขาย 792,389 ล้านบาท
JAS ปิดที่ 7.70 ลดลง -0.20 คิดเป็น -2.53% มูลค่าการซื้อขาย 748,972 ล้านบาท
TRUE ปิดที่ 9.10 เพิ่มขึ้น +0.05 คิดเป็น +0.55% มูลค่าการซื้อขาย 641,313 ล้านบาท
นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยขณะนี้ การเมืองมีโอกาสกลับมากดดันตลาดอีกครั้ง ประกอบกับความกังวลเรื่องที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดมาตรการ QE ที่กระชั้นเข้ามา และรุนแรงขึ้น หลังจากที่ประเทศสหรัฐฯ ประกาศ GDP ไตรมาสที่ 3 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +3.6% จากที่คาดเอาไว้เดิมเพียง +2.5%
ดังนั้น แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติจะยังไม่หมด แต่ยังมีแรงซื้อจากกองทุนในประเทศคอยปกป้อง downside risk อยู่ ดังนั้น แนะนำนักลงทุนรอรับหุ้นพื้นฐานดีตามแนวรับที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้อยู่มาก และมีการเติบโตที่ไม่พึ่งพารัฐบาล โดยทางเทคนิคมีแนวรับที่ 1,320 จุด และ 1,280 จุด ซึ่งหากหลุดแนวรับนี้ไปคาดว่าจะอยูที่ 1,250 จุด ทั้งนี้ เชื่อว่าตลาดหุ้นมีลุ้นการรีบาวนด์กลับมาช่วงปลายเดือนธันวาคม-ต้นเดือนมกราคมปีหน้า อย่างไรก็ดี ยังไม่สามารถคาดการณ์ความเสี่ยงทางการเมืองในขณะนี้ได้ว่าจะยืดเยื้อ หรือยุติลงโดยเร็ว