หุ้นไทยภาคเช้าปิดบวก 14.81 จุด ทิศทางเดียวกับตลาดในต่างประเทศ คาดรับข่าว “เฟด” ยืนยันเดินหน้า “คิวอี” ต่อไปอีก เป็นแค่การคาดการณ์ที่มักจะมีกระแสข่าวออกมาเป็นระลอกจนกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นจริง แต่การปรับขึ้นเช้าวันนี้ เชื่อเป็นการเก็งกำไรผลประกอบการ บจ. ช่วง Earning Season พร้อมแนะจับตายกระดับชุมนุมศุกร์นี้ จะเพิ่มความเสี่ยงให้แก่ตลาดหรือไม่
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (14 พ.ย.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,419.58 จุด เพิ่มขึ้น 14.81 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.05% มูลค่าการซื้อขาย 13,920.41 ล้านบาท ขานรับข่าวทางสหรัฐฯ มีการเปิดเผยข้อมูลที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่จะพูดในคืนนี้ ในเรื่องที่ว่าการฟื้นตัวเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังไม่ชัดเจน และยังมีความจำเป็นจะต้องใช้มาตรการอัดฉีดเงิน (QE) ต่อไป
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคเอเชียที่รีบาวนด์กันเกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดฟิลิปปินส์ ที่ปรับตัวลงเนื่องมาจากปัญหาภายในเรื่องพายุ
ทั้งนี้ การซื้อขายได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากที่การเมืองไม่ไมีเหตุการณ์รุนแรง แต่ยังต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะวันศุกร์นี้ ซึ่งจะมีการยกระดับการชุมนุมขึ้น ซึ่งต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง และจะเพิ่มความเสี่ยงให้แก่ตลาดหรือไม่ นอกจากนี้ สัปดาห์หน้าจะมีเรื่องศาลฯ จะตัดสินเรื่องที่มาของ ส.ว.ที่จะต้องติดตามดูด้วย
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของตลาดมองว่าเป็นผลจากการเก็งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วง Earning Season และยังมีการประเมินเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ที่มีการเติบโตดีขึ้นในไตรมาส 4/56 ต่อเนื่องจากไตรมาส 3/56 ทั้งเศรษฐกิจในสหรัฐฯ จีน และยุโรป
สำหรับเรื่องมาตรการ QE มองว่าช่วงนี้ที่ เจเน็ต เยลเลน ยังคงเป็นรองประธานเฟดอยู่ น่าจะ Follow นโยบายเดิมไปก่อน และเมื่อเจเน็ต เยลเลน ได้ขึ้นเป็นประธานเฟดคนใหม่ในต้นปีหน้า ค่อยมาว่ากันเรื่องนโยบายอีกที ซึ่งขณะนี้แม้จะมีการพูดถึงเรื่องการคงมาตรการ QE แต่เป็นแค่การคาดการณ์ ซึ่งเรื่อง QE เป็นอะไรที่มักจะมีกระแสข่าวออกมาเป็นระลอกไปจนกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นจริง
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ คาดว่าตลาดจะยืนในแดนบวกได้ หากไม่มีประเด็นอะไรใหม่เข้ามา แต่เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นมีโอกาสที่จะแกว่งได้เหมือนกัน พร้อมให้แนวต้าน 1,420-1,430 จุด และมีจุด stop loss อยู่ที่ 1,400 จุด โดยแนะให้ Follow ตามค่าบวกเท่านั้น
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
TRUE ปิดที่ 8.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ +4.76%
JAS ปิดที่ 8.30 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
INTUCH ปิดที่ 78.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ +1.62%
ADVANC ปิดที่ 230.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ +1.32%
CPALL ปิดที่ 41.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +2.48%