หุ้นปิดบวก 10 จุด เก็งกำไรงบ Q3 และข่าว “เยลเลน” ส่งสัญญาณคง “คิวอี” ขณะที่การเมืองอยู่ในช่วงพักรบ โบรกฯ ยอมรับวอลุ่มเบาบางเพราะนักลงทุนยังกังวล คาดพรุ่งนี้อาจจะมีแรงขายออกมาเพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์การเมืองในสัปดาห์หน้า ด้านต่างชาติขายอีก 1.5 พันล้าน ต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 รวมยอดขายทะลุ 2 หมื่นล้านไปแล้ว
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (14 พ.ย.) ดัชนีปิดที่ระดับ 1,415.69 จุด เพิ่มขึ้น 10.92 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.78% มูลค่าการซื้อขาย 29,688.18 ล้านบาท โดยมีแรงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3 เป็นตัวหนุน แต่วอลุ่มเทรดยังเบาบาง ด้านนักลงทุนต่างชาติขายอีก 1.52 พันล้าน ต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 รวมยอดขายสุทธิกว่า 2 หมื่นล้านบาทไปแล้ว
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยง ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยผันผวนอยู่ในแดนบวก โดยได้ปัจจัยบวกจากต่างประเทศ หลังจาก นางเจเนต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนต่อไป ออกมาเปิดเผยว่า สหรัฐฯ จะยังไม่ลดนโยบายอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ (คิวอี) จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะดีขึ้นอย่างชัดเจน ประกอบกับสถานการณ์การเมืองในประเทศผ่อนคลายลงในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ทั้งมาตรการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ (คิวอี) และประเด็นการเมืองในประเทศยังคงเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องติดตามต่อไป โดยเชื่อว่านักลงทุนบางส่วนยังคงกังวลอยู่ เห็นได้จากปริมาณการซื้อขายที่ไม่มากนัก นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้อาจจะมีแรงขายออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์การเมืองในสัปดาห์หน้า โดยมีแนวรับอยู่ที่ 1,400 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,430 จุด และถัดไปที่ 1,440 จุด
ด้านนายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคที ซีมิโก้ มองว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบแต่ยังยืนในแดนบวกได้เช่นเดียวกับตลาดภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า และขึ้นได้ดีกว่าตลาดบ้านเรา ซึ่งมองว่าอาจได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการ QE ที่มีการส่งสัญญาณว่ายังจะใช้อยู่
แม้ตลาดบ้านเราจะปรับตัวขึ้นไปได้แต่ไม่มีนัยอะไร เนื่องจากวอลุ่มเทรดไม่มาก คงเป็นเพราะนักลงทุนยังไม่มั่นใจนัก โดยยังมีความกังวลเรื่องการเมืองในประเทศ แม้ขณะนี้การเมืองจะยังไม่ได้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลง แต่ยังต้องติดตามดูต่อไปส่วนการประกาศผลการดำเนินงาน (Earning) โดยรวมถือว่าออกมาใช้ได้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ นายเจริญ มองว่า ตลาดคงจะอยู่ในลักษณะทรงตัว โดยแนะนำแค่ “เทรดดิ้ง” เนื่องจากวอลุ่มเทรดยังน้อย ตลาดจึงยังไม่น่าจะไปได้ไกล พร้อมให้แนวรับ 1,381 จุด ส่วนแนวต้าน 1,418-1,433 จุด
สำหรับหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
TRUE มูลค่า 2,481.93 ล้านบาท ปิดที่ 8.65 บาท +0.25 บาท หรือ +2.98%
JAS มูลค่า 1,854.12 ล้านบาท ปิดที่ 8.15 บาท -0.15 บาท หรือ -1.81%
ADVANC มูลค่า 1,553.86 ล้านบาท ปิดที่ 230.00 บาท +3.00 บาท หรือ +1.32%
INTUCH มูลค่า 1,285.99 ล้านบาท ปิดที่ 78.25 บาท +1.25 บาท หรือ +1.62%
CPALL มูลค่า 914.08 ล้านบาท ปิดที่ 41.25 บาท +1.00 บาท หรือ +2.48%