ดัชนีหุ้นไทยพุ่งพรวดเกือบ 50 จุด สูงสุดรอบ 2 เดือน ดันวอลุ่มทะลักกว่า 8 หมื่นล้านบาท ขานรับทุนไหลเข้า หลังมติ “เฟด” คงมาตรการ “คิวอี” ที่ระดับ 8.5 หมื่นล้านดอลล์/เดือน หุ้นกลุ่มรับเหมาเก็งกำไรคึกคัก แนะจับตาแนวต้าน 1,500 จุด
ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (19 ก.ย.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,489.06 จุด เพิ่มขึ้น 49.93 จุด หรือเปลี่นแปลง +3.47% ด้วยมูลค่าซื้อขายที่สูงถึง 82,711.82 ล้านบาท ด้านสัดส่วนการลงทุนในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 5.5 พันล้าน นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 1.2 หมื่นล้าน สถาบันซื้อสุทธิ 3 พันล้าน และบัญชีโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 3.7 พันล้าน
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวขึ้นแรง ทำสถิติในรอบ 2 เดือน เพราะได้รับปัจจัยบวกหลักจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่ถอนมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) โดยคงไว้ที่ระดับ 8.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน นอกจากนี้ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท เข้าสภาผู้แทนราษฎร กระตุ้นหุ้นรับเหมาก่อสร้างคึกคัก
สำหรับทิศทางตลาดวันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2556 มีแนวโน้มไปต่อได้ จากเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาลงทุน จากก่อนหน้าที่ขายออกไป ตลาดมีแนวต้าน 1,500-1,510 จุด และแนวรับ 1,480 จุด คาดว่าดัชนีที่ขึ้นไปทดสอบ 1,500 จุด ให้ระวังความผันผวน และรอซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว หากดัชนีหลุด 1,475 จุด เป็นจุดตัดขาดทุนต้องขายออก
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการสายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีในวันพรุ่งนี้น่าจะพักฐาน และมีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ เนื่องจากวันนี้ดัชนีปรับขึ้นแรงเกือบ 50 จุด และเมื่อดัชนีใกล้แนวต้านสำคัญที่ 1,500 จุด อาจมีแรงขายออกมาบ้าง
ด้านกลยุทธ์ในการลงทุน แนะนำซื้อหุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท อย่างกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง รวมถึงหุ้นในกลุ่มโบรกเกอร์ที่มองว่าน่าเก็งกำไร โดยประเมินแนวรับที่ 1,479 จุด และแนวต้านแรกที่ 1,500 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,520 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
KBANK ปิดที่ 197 บาท เพิ่มขึ้น 9.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 4,624.02 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 174 บาท เพิ่มขึ้น 11 บาท มูลค่าซื้อขาย 4,575.42 ล้านบาท
KTB ปิดที่ 22.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 3,847.31 ล้านบาท
INTUCH ปิดที่ 88.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 3,643.86 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 39.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 3,580.06 ล้านบาท