พ.ร.บ.ล้างผิดคนโกงลากหุ้นไทยดิ่งเหว โบรกฯ คาดอาจรีบาวนด์กลับช่วงสั้น

หุ้นไทยปิดตลาดลบกว่า 36.18 จุด อยู่ที่ระดับ 1,448.54 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,456.13 ล้านบาท จากข่าวการเตรียมดัน พ.ร.บ. นิรโทษกรรมเข้าสภา ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน สถาบันเทขายกว่า 4,028.23 ล้านบาท

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 ต.ค.) ปิดที่ระดับ 1,448.54 จุด ปรับตัวลดลง 36.18 จุด หรือ -2.44% มูลค่าการซื้อขาย 45,456.13 ล้านบาท

ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,485.67 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,446.40 จุด ภาพรวมดัชนีหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงจากการเตรียมดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสภาในวาระต่อไป และการประชุมประจำเดือนของเฟดในปลายเดือนนี้

หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 146 หลักทรัพย์ ลดลง 687 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 81 หลักทรัพย์

การซื้อขายสุทธิแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า สถาบันในประเทศขายสุทธิ -4,028.23 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,061.95 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 3,656.65 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ -690.37 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

TRUE ปิดที่ 9.20 บาท ลดลง -0.65 บาท หรือ -6.60% มูลค่าการซื้อขาย 4,024,422 ล้านบาท

ADVANC ปิดที่ 260.00 บาท ลดลง -7.00 บาท หรือ -2.62% มูลค่าการซื้อขาย 2,888,966 ล้านบาท

KBANK ปิดที่ 185.50 บาท ลดลง -7.00 บาท หรือ -3.64% มูลค่าการซื้อขาย 1,838,337 ล้านบาท

INTUCH ปิดที่ 84.50 บาท ลดลง -2.75 บาท หรือ -3.15% มูลค่าการซื้อขาย 1,738,750 ล้านบาท

JAS ปิดที่ 9.10 บาท ลดลง -0.50 บาท หรือ -5.21% มูลค่าการซื้อขาย 1,610,342 ล้านบาท

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากปัจจัยภายในประเทศ ในประเด็นเกี่ยวกับการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งอาจสร้างปัญหาต่อตลาดทุนได้ แต่เป็นการลงเฉพาะตลาดประเทศไทยเท่านั้น โดยที่ตลาดส่วนใหญ่นั้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ตลาดหุ้นไทยกลับลดลงกว่า 2.44% ซึ่งถือว่าลงสวนทางกับตลาดภูมิภาค
 
อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงกว่า 36.18 จุด ถือว่าเป็นการปรับตัวในทิศทางลงที่หนักมากแล้ว ซึ่งมองว่าไม่น่าจะหลุดต่ำกว่า 1,445 จุด ซึ่งถือว่าลงมาหนักมากแล้ว และโดยรวมตลาดภูมิภาคจะยังคงดีอยู่แต่แนวโน้มเรื่อง QE จะยังคงสร้างความตึงเครียดต่อเนื่องไปจนถึงอย่างน้อยต้นปีหน้า ในส่วนปัจจัยภายในประเทศของไทยนั้นจะต้องติดตามว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะเข้าวาระการประชุมสภาเมื่อไหร่

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (22 ต.ค.) อาจจะมีการรีบาวนด์ทางเทคนิคขึ้นมาได้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่นักลงทุนจะเข้าซื้อสะสมได้ ส่วนแนวรับ 1,435-1,440 จุด แนวต้าน 1,460-1,465 จุด