หุ้นปิดครึ่งวันเช้าปรับลง 7 จุด นักลงทุนเทขายลดความเสี่ยง นักวิเคราะห์ชี้ตลาดเริ่มกลับมากังวลปัญหาการเมือง ซึ่งมีการชุมนุม และความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ต่อกรณีการตัดสินคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว. รวมถึงการเปิดให้ลงชื่อถอดถอน 310 ส.ส.ที่มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภา รวมถึงวาระการประชุมอื่นๆ ของการประชุม ครม.ที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายใช้งบลงทุน 2 ล้านล้านบาท
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (19 พ.ย.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,416.68 จุด ลดลง 7.28 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.51% มูลค่าการซื้อขาย 14,814.20 ล้านบาท นักวิเคราะห์คาดนักลงทุนเริ่มกลับมากังวลปัญหาการเมือง หลังรัฐบาลจัดม็อบแก้เกมฝ่ายตรงข้าม อาจนำสถานการณ์เข้าสู่ภาวะตึงเครียด ขณะที่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งยังใช้เล่ห์เหลี่ยมในการเอาชนะ ซึ่งไม่ใช่ทางออกในการแก้ไขปัญหา และอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประเทศ
“ตลาดหุ้นวันนี้เริ่มกลับมามีความกังวลเรื่องสถานการณ์การเมือง ทั้งการชุมนุมซึ่งจะมีความเคลื่อนไหวกลุ่มต่างๆ ต่อกรณีการตัดสินคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว. รวมถึงการเปิดให้ลงชื่อถอดถอน 310 ส.ส. ที่มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภา รวมถึงวาระการประชุมอื่นๆ ของการประชุม ครม.ที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายใช้งบลงทุน 2 ล้านล้านบาท”
ด้านนายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้า ปรับตัวลงจากแรงกดดันของปัจจัยภายในประเทศ ทั้งสถานการณ์ทางการเมือง และตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาไม่ดีนัก โดยวานนี้สภาพัฒน์ปรับลดประมาณการ GDP ไทยในปี 56 ลงมาเหลือเติบโตแค่ 3% จากเดิมที่คาดไว้ 3.8-4.3% ทำให้นักลงทุนต่างชาติขายทำกำไรออกมาก่อนเพื่อลดความเสี่ยง
นอกจากนี้ ตลาดกำลังเฝ้ารอผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของ ส.ว.ในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ย) ว่า จะเข้าข่ายการล้มล้างการปกครองดังที่ฝ่ายที่ยื่นคำร้องกล่าวหาหรือไม่ ซึ่งจะต้องติดตามต่อไปว่าจะทำให้ทิศทางการเมืองเป็นอย่างไร
ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ หลังจากสิ้นสุดช่วง Earning Season ไปแล้ว และประเด็นมาตรการ QE ชัดเจนแล้วว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงยังไม่ปรับลดขนาดลงภายในปีนี้ ดังนั้น การเคลื่อนไหวของตลาดต่างประเทศจึงอยู่ในลักษณะของการรอประเด็นใหม่เข้ามา
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
MEGA ปิดที่ 18.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท หรือ +6.86%
ADVANC ปิดที่ 232.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -1.28%
THREL ปิดที่ 12.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ +4.88%
TRUE ปิดที่ 9.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ +1.11%
JAS ปิดที่ 8.10 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง