หุ้นเปิดลบ 8 จุด ทิศทางเดียวกับต่างประเทศ โบรกฯ คาดดัชนีเคลื่อนไหวกรอบแคบ กังวล “เฟด” ปรับลด QE และการเมืองยังกดดัน แนะจับตา “อารยะขัดขืน” ม็อบยกระดับชุมนุมใหญ่วันศุกร์ 15 พ.ย. แกนนำลั่นจบในเดือนนี้ พร้อมให้กรอบ 1,395-1,420 จุด
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 พ.ย.) ดัชนีเปิดตลาดในแดนลบ ทิศทางเดียวกับต่างประเทศ โดยเมื่อเวลา 09.57 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,404.92 จุด ลดลง 8.16 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.58% มูลค่าการซื้อขาย 992.50 ล้านบาท ต่อมา เมื่อเวลา 10.00 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,406.90 จุด ลดลง 6.18 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.44% มูลค่าการซื้อขาย 1,290.56 ล้านบาท
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ ยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แนวโน้มปรับตัวลงในกรอบแคบ ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่อยู่ในแดนลบกันมากขึ้น เนื่องจากกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะชะลอการใช้มาตรการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมา และหุ้นไทยช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาก็ปรับตัวขึ้นมามากแล้วด้วย
สำหรับทิศทางเงินต่างชาติในขณะนี้ จะเป็นลักษณะของการไหลออก หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น และเงินดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้น รวมถึง Bond yield 10 ปีของสหรัฐฯ ก็ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องมาที่ 2.8% สูงสุดในรอบ 2 เดือน ซึ่งเป็นตัวสะท้อนสภาพคล่อง และกลับมากังวลเรื่อง QE อีกครั้ง
ด้านปัจจัยการเมืองในประเทศคาดว่าจะเข้มข้นขึ้นในสัปดาห์หน้าก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาเรื่องแก้ไขที่มาของ ส.ว. และการชุมนุมทางการเมืองยกระดับเป็นการต่อต้านรัฐบาลแล้ว ไม่ใช่คัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จึงวิตกว่าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มขึ้น พร้อมให้แนวรับ 1,395-1,405 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์แนะนำว่า นักลงทุนยังคงต้องเฝ้าระวังแรงขายของต่างชาติ หลังการชุมนุมยังคงยืดเยื้อ โดยในช่วง 9 วันที่ผ่านมา ต่างชาติขายต่อเนื่องกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมยกระดับการชุมนุมต่อต้านต่อไปโดยอารยะขัดขืน โดยประกาศจบในเดือนนี้ และยกระดับการชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันศุกร์นี้
