xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นปิดบวก 27 จุด ขานรับข่าว พ.ร.บ.นิรโทษสุดซอยสะดุด รัฐเตรียมใส่เกียร์ถอย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นเด้งปิดบวก 27 จุด ขานรับสถานการณ์การเมืองดูดีขึ้น จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลอาจมีการทบทวน พ.ร.บ.นิรโทษสุดซอย และอาจจะมีการถอยลงมาบ้าง แม้อีกกระแสจะคาดการณ์ว่าทางวุฒิสภาอาจไม่รับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวตั้งแต่วาระแรก ซึ่งตรงนี้อาจทำให้ความขัดแย้งผ่อนคลายลงไป ดังนั้น นักลงทุนจึงได้กลับมาซื้อหุ้น พร้อมแนะจับตาใกล้ชิด เพราะเริ่มใช้ประเด็นใหม่ในการชิงไหวชิงพริบ

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (5 พ.ย.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,415.44 จุดเพิ่มขึ้น 27.04 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.95% มูลค่าการซื้อขาย 34,880.49 ล้านบาท

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวนด์กลับขึ้นมาหลังเมื่อวานนี้ปรับตัวลงไปแรงอันเนื่องมาจากความกังวลว่าการชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอาจจะรุนแรง แต่มาจนถึงวันนี้สถานการณ์การเมืองดูดีขึ้นจากกระแสคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลอาจมีการทบทวน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และอาจจะมีการถอยลงมาบ้าง

แต่อีกกระแสก็คาดการณ์ว่า ทางวุฒิสภาอาจไม่รับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมตั้งแต่วาระแรก ซึ่งตรงนี้อาจทำให้ความขัดแย้งผ่อนคลายลงไป ดังนั้น นักลงทุนจึงได้กลับมาซื้อหุ้น และมองปัจจัยการเมืองเป็นเพียงเรื่องชั่วคราวซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐาน ดังนั้น ราคาหุ้นจึงควรจะกลับไปยังพื้นฐานเหมือนเดิมได้ อย่างไรก็ดี นักลงทุนก็ยังเฝ้ารอดูสถานการณ์การเมืองอยู่อย่างใกล้ชิด

ส่วนแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ คาดว่าตลาดยังคงจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมืองเป็นหลัก รองลงมา ก็จะให้น้ำหนักไปที่การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน พร้อมให้แนวรับ 1,400-1,380 จุด แนวต้าน 1,420-1,430 จุด

ด้าน น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นแรงในช่วงปลายตลาดหลังจากมีกระแสข่าวว่าสมาชิกวุฒิสภาจะคว่ำมติ พ.ร.บ.ร่างนิรโทษกรรม ทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร และในวันพรุ่งนี้คณะกรรมการประสานวุฒิสภาจะหารือร่วมกันก่อนแถลงจุดยืนอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม คาดว่ากรณีดังกล่าวกว่าจะรู้ผลจริงๆ จะต้องรอผลการลงมติที่ประชุมวุฒิสภาฯ 11 พ.ย.นี้ ดังนั้น แนวโน้มในวันพรุ่งอาจมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง จึงคาดว่าดัชนีไม่น่าจะผ่านแนวต้าน 1,420 จุดได้ ขณะเดียวกัน มองแนวรับอยู่ที่ 1,400 และ 1,390 จุด ตามลำดับ

ทั้งนี้ นักลงทุนที่ลงทุนระยะสั้นอาจอาศัยจังหวะทำกำไรออกไปเพื่อลดความเสี่ยงลงบ้าง ส่วนนักลงทุนระยะยาวสามารถทยอยซื้อหุ้นได้

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

JAS มูลค่าการซื้อขาย 3,570.41 ล้านบาท ปิดที่ 8.30 บาท +0.50 บาท หรือ +6.41%

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,156.70 ล้านบาท ปิดที่ 8.40 บาท +0.60 บาท หรือ +7.69%

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,644.33 ล้านบาท ปิดที่ 200 บาท +11 บาท หรือ +5.82%

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,567.02 ล้านบาท ปิดที่ 247 บาท + 1 บาท หรือ +0.41%

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,235.78 ล้านบาท ปิดที่ 312 บาท + 1 บาท หรือ 0.32%
กำลังโหลดความคิดเห็น