xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยรีบาวนด์27จุดหลังรัฐส่อถอยนิรโทษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน - หุ้นไทยรีบาวนด์ 27 จุด หลังความขัดแย้งทางการเมืองมีแววผ่อนคลายลง ด้านผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ ชี้บรรยากาศการลงทุนขณะนี้ ถือว่าเป็นโอกาสเข้ามาเก็บหุ้นเพื่อหวังผลตอบแทนในระยะยาว พร้อมคาดดัชนีปีหน้าโต 15% นายกโบรกฯคาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่องยาว หากเหตุการณ์ชุมนุมยืดเยื้อ กระทบความเชื่อมั่นต่างชาติ “ไพบูลย์”ชี้มีแนวโน้มปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (5พ.ย.) ปิดที่ระดับ 1,415.44 จุด เพิ่มขึ้น 27.04 จุด หรือ 1.95% มูลค่าการซื้อขาย 34,968.98 ล้านบาท อย่างไรก็ตามพบว่า นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิอีก 2,055.29 ล้านบาท เช่นเดียวกับบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ขายสุทธิ 519.24 ล้านบาท โดยสถาบันซื้อสุทธิ 1,788.91 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 785.62 ล้านบาท

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยรีบาวน์กลับขึ้นมาหลังวันก่อนร่วงแรงจากเหตุกังวลการชุมนุมต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะรุนแรง แต่มาวานนี้สถานการณ์การเมืองดูดีขึ้น จากกระแสรัฐบาลอาจถอยต่อเรื่องดังกล่าว อีกทั้งมีกระแสก็ว่าทางวุฒิสภาอาจไม่รับร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมตั้งแต่วาระแรก ตรงนี้ทำให้ความขัดแย้งผ่อนคลายลงไป ทำให้นักลงทุนมั่นใจ และจึงกลับเข้ามาซื้อหุ้น นอกจากนี้คาดว่าจะยังได้แรงซื้อจากกองทุนรวม LTF ด้วย

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า บรรยากาศการลงทุนในขณะนี้ถือว่ามีโอกาสที่นักลงทุนจะสามารถเข้าลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนในระยะยาวได้ ภายหลังจากที่ดัชนีปรับตัวลดลงจนส่งผลให้ค่า P/E อยู่ในระดับต่ำเพียง 14.5 เท่า ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเชื่อว่าจะยังสามารถสร้างกำไรและจ่ายปันผลได้ในระยะข้างหน้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ดีต่อการลงทุน

ขณะที่บรรยากาศการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ แม้ยอมรับว่าปัจจัยทางการเมืองจะส่งผลกระทบในระดับหนึ่งในด้านความกังวลเรื่องของการเผชิญหน้าและนำไปสู่ความรุนแรง แต่การที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยสามารถปรับตัวรีบาวน์ขึ้นมาได้ แสดงถึงระดับความไม่มั่นใจว่าไม่ได้สูงมากนัก เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ในต่างประเทศ เช่น แนวโน้มการถอนมาตรการอัดฮีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ของสหรัฐฯ

ส่วนผลกระทบจากปัจจัยการเมืองจะมากหรือน้อยนั้น ยังต้องพิจารณาจากหลายด้าน เช่น เรื่องการชุมนุมว่ามีขนาดและความรุนแรงมากแค่ไหน ซึ่งยังคงต้องติดตาม อย่างไรก็ตาม คาดว่าการเติบโตของดัชนีในปีหน้าจะอยู่ที่ระดับ 15% ได้ ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของบทวิเคราะห์ต่างๆ ที่ประเมินว่าความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในปี 57 จะอยู่ที่ระดับ 15%

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า สถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่มีอยู่ในขณะนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งของไทยและนักลงทุนจากต่างประเทศ ที่มีต่อตลาดหุ้นไทย ทำให้ดัชนี SET INDEX ปรับตัวผันผวนขึ้นลงตลอดทั้งสัปดาห์ แต่อย่างไรก็ดีในส่วนของกำไรของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 4 อาจจะยังไม่ส่งผลกระทบมากนักเนื่องจากยังมีการคาดหวังไว้ว่าจะได้งานจากโครงการ พรบ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่จะดึงดูดการลงทุนจากแหล่งทุนต่างๆ

แต่หากปัญหาการชุมนุมทางการเมืองจะยังคงยืดเยื้อต่อไปจนถึงปีหน้า อาจทำให้ตลาดหุ้นเข้าสู่สภาวะสภาวะซบเซา เพราะจะมีมาตรการณ์ QE เข้ามากดดันตลาดอีกหนึ่งปัญหาด้วย ซึ่งจะทำให้วอลุ่มการซื้อขายของตลาดหุ้นปรับตัวผันผวนลดลงมา

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวว่า จากสถานการณ์ความรุนแรงในการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในช่วงนี้ค่อนข้างมาก ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมามีสัญญาณของเงินทุนไหลออกของต่างชาติ จากเรื่องของการชะลอมาตรการ QE ไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท โดยช่วงนี้จึงอาจไม่ค่อยเห็นการไหลออกของเงินทุนมากเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตามในช่วงนี้กลับมองว่ามีโอกาสเห็นเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาลงทุนในประเทศไทยตามเทศกาลท่องเที่ยวที่ควรจะเป็น แต่กลับชะลอขึ้นจากเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศ ซึ่งมีผลต่อจิตวิทยาและเศรษฐกิจประเทศทั้งระบบ นอกจากนี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในประเทศที่มีต่อรัฐบาลกลับปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดีในอนาคตมีแนวโน้มที่นักวิเคราะห์อาจจะมีการปรับประมาณการณ์ความน่าเชื่อถือและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดลงด้วย

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(6 พ.ย.) จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมืองเป็นหลัก รองลงมาก็จะให้น้ำหนักไปที่การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน พร้อมให้แนวรับ 1,400-1,380 จุด แนวต้าน 1,420-1,430 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น