ASTV ผู้จัดการรายวัน - ตลาดหลักทรัพย์ฯเตรียมใช้มาตรการควบคุมการซื้อขายที่มีความถี่สูง “Dynamic Price Band” เบรกราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นลงเร็วผิดปกติ เพื่อเตือนนักลงทุน ล่าสุดดำเนินการไปแล้ว 70% ด้านตลาดหุ้นวานนี้(24ต.ค.) พลิกปิดบวก 8 จุด จุดพลุเก็งกำไรเป็นรายตัว แถมได้แรงซื้อหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมี สนับสนุน โบรกฯ เตือนยังไม่มีปัจจัยบวกที่ชัดเจน
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์จะใช้มาตรการควบคุมการซื้อขายที่มีความถี่สูง ที่มีชื่อว่า Dynamic Price Band โดยขณะนี้โปรแกรมดังกล่าวมีการดำเนินการไปแล้ว 70% ซึ่งจะเข้ามาควบคุมในหุ้นทุกประเภท ยกเว้นหุ้นที่มีราคาต่ำกว่า 20 สตางค์รวมถึง DW และ warrant
โดยสมมติว่าเมื่อวานหากราคาหุ้นปิดที่ 100 บาท ต่อมาวันนี้เปิดเทรดไป 103 บาท และมีการกระโดดไปที่ 113 บาท โปรแกรมนี้จะเข้ามาควบคุมหรือหยุดการขายทันทีประมาณ 5 นาที เพื่อไม่ให้ดัชนีปรับตัวขึ้นลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ และเพื่อเตือนสติให้นักลงทุนหยุดคิดว่าจะซื้อขายต่อไปหรือไม่
"เราก็กำลังมองว่าจะเซ็ตโปรแกรมให้หยุดซื้อขายที่กี่ % อาจจะ 5% หรือ 10% ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดเวลาว่าจะใช้เมื่อไหร่ แต่เมื่อโปรแกรมดังกล่าวมีความพร้อมก็จะนำมาใช้ทันที"นายจรัมพร กล่าว
ที่ผ่านมา ตลท.พิจารณานำระบบ High Frequency Trading หรือการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์โดยไม่ต้องใช้คนส่งคำสั่ง แต่ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์วิเคราะห์ข้อมูล ค้นหาโอกาสเสี้ยววินาทีในการลงทุนและส่งคำสั่งซื้อขายโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกับที่ใช้ในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น ทำให้ดัชนีอาจปรับขึ้น-ลงอย่างรวดเร็วและแรงผิดปกติ
**หุ้นไทยบวก8จุดแรงเก็งกำไรกลุ่มพลังงานหนุน
สำหรับภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ (24 ต.ค.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,466.32 จุด เพิ่มขึ้น 8.96 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.61% มูลค่าการซื้อขาย 33,946.35 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนดัชนีค่อนข้างผันผวน เปิดตลาดในแดนลบ โดยมีแรงกดดันจากปัญหาการเมืองในประเทศ แต่ในช่วงบ่ายกลับมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี เข้ามาดันดัชนียืนในแดนบวก
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซื้อสุทธิ 499.62 ล้านบาท และนักลงทมุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 252.55 ล้านบาท โดยนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 672.84 ล้านบาท สถาบันขายสุทธิ 79.34 ล้านบาท
นายชัย เสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยกระเตื้องขึ้นจากแรงเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ในกลุ่มที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ บวกกับแรงซื้อหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี และพลังงาน
"อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีปัจจัยบวกที่ชัดเจน ในขณะที่มูลค่าซื้อขายไม่ได้โดดเด่น เพราะคาดว่า เงินบางส่วนที่กังวลต่อปัจจัยการเมืองจะชะลอการลงทุนในระยะนี้"
ส่วนแนวโน้มวันนี้(25ต.ค.) คงต้องรอดูการประกาสตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ และการเก็งกำไรผลประกอบการ บวกกับกระแสเงินลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งยอมรับว่า ปัจจัยนี้ค่อนข้างประเมินได้ยาก โดยคาดว่า แนวรับจะอยู่ที่ 1,450 จุด และแนวต้าน 1,470-1,480 จุด
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์จะใช้มาตรการควบคุมการซื้อขายที่มีความถี่สูง ที่มีชื่อว่า Dynamic Price Band โดยขณะนี้โปรแกรมดังกล่าวมีการดำเนินการไปแล้ว 70% ซึ่งจะเข้ามาควบคุมในหุ้นทุกประเภท ยกเว้นหุ้นที่มีราคาต่ำกว่า 20 สตางค์รวมถึง DW และ warrant
โดยสมมติว่าเมื่อวานหากราคาหุ้นปิดที่ 100 บาท ต่อมาวันนี้เปิดเทรดไป 103 บาท และมีการกระโดดไปที่ 113 บาท โปรแกรมนี้จะเข้ามาควบคุมหรือหยุดการขายทันทีประมาณ 5 นาที เพื่อไม่ให้ดัชนีปรับตัวขึ้นลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ และเพื่อเตือนสติให้นักลงทุนหยุดคิดว่าจะซื้อขายต่อไปหรือไม่
"เราก็กำลังมองว่าจะเซ็ตโปรแกรมให้หยุดซื้อขายที่กี่ % อาจจะ 5% หรือ 10% ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดเวลาว่าจะใช้เมื่อไหร่ แต่เมื่อโปรแกรมดังกล่าวมีความพร้อมก็จะนำมาใช้ทันที"นายจรัมพร กล่าว
ที่ผ่านมา ตลท.พิจารณานำระบบ High Frequency Trading หรือการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์โดยไม่ต้องใช้คนส่งคำสั่ง แต่ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์วิเคราะห์ข้อมูล ค้นหาโอกาสเสี้ยววินาทีในการลงทุนและส่งคำสั่งซื้อขายโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกับที่ใช้ในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น ทำให้ดัชนีอาจปรับขึ้น-ลงอย่างรวดเร็วและแรงผิดปกติ
**หุ้นไทยบวก8จุดแรงเก็งกำไรกลุ่มพลังงานหนุน
สำหรับภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ (24 ต.ค.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,466.32 จุด เพิ่มขึ้น 8.96 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.61% มูลค่าการซื้อขาย 33,946.35 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนดัชนีค่อนข้างผันผวน เปิดตลาดในแดนลบ โดยมีแรงกดดันจากปัญหาการเมืองในประเทศ แต่ในช่วงบ่ายกลับมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี เข้ามาดันดัชนียืนในแดนบวก
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซื้อสุทธิ 499.62 ล้านบาท และนักลงทมุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 252.55 ล้านบาท โดยนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 672.84 ล้านบาท สถาบันขายสุทธิ 79.34 ล้านบาท
นายชัย เสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยกระเตื้องขึ้นจากแรงเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ในกลุ่มที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ บวกกับแรงซื้อหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี และพลังงาน
"อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีปัจจัยบวกที่ชัดเจน ในขณะที่มูลค่าซื้อขายไม่ได้โดดเด่น เพราะคาดว่า เงินบางส่วนที่กังวลต่อปัจจัยการเมืองจะชะลอการลงทุนในระยะนี้"
ส่วนแนวโน้มวันนี้(25ต.ค.) คงต้องรอดูการประกาสตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ และการเก็งกำไรผลประกอบการ บวกกับกระแสเงินลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งยอมรับว่า ปัจจัยนี้ค่อนข้างประเมินได้ยาก โดยคาดว่า แนวรับจะอยู่ที่ 1,450 จุด และแนวต้าน 1,470-1,480 จุด