การเมืองร้อน กดดันหุ้นไทยผันผวนจัด ช่วงเช้าลบกว่า25 จุด แต่ช่วงบ่ายดีดกลับปิดบวก0.88 จุด ต่างชาติขายอีก 2.8 พันล้าน โบรกเกอร์คาดยังผันผวนต่อ ด้านตลาดหลักทรัพย์ยืนยันมีความพร้อมรับหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ชี้ราคาหุ้นต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ทำให้ P/E ต่ำ จนดึงดูดนักลงทุนเข้าเก็บหุ้น เพื่อหวังผลระยะยาว
ตลาดหุ้นไทย ผันผวนแรงในช่วงเช้าปรับตัวลดลงกว่า 25 จุด แต่มีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงบ่ายทำให้ดัชนีกลับมาปิดที่ระดับ 1,405.91 เพิ่มขึ้น 0.88 จุด หรือ 0.06% มูลค่าการซื้อขาย 32,285.22 ล้านบาท ภาพรวมรวมดัชนีผันผวนไปตามกระแสข่าวทางการเมือง โดยรวมนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,848.73 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 191.17 ล้านบาท ขณะที่สถาบัน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซื้อสุทธิ 2,494.49 ล้านบาท และ545.42 ล้านบาท
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท. และโบรกเกอร์ ได้เตรียมความพร้อม สำหรับระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ หากเกิดกรณีฉุกเฉินจากสถานการณ์การเมืองในประเทศ จึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะทำให้การซื้อขายเดินหน้าได้ตามปกติ
ส่วนที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงท้ายตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเช้าจากที่มีการปรับตัวลดลงแรง เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ราคาหุ้นต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ทำให้ P/E ต่ำ ซึ่งเหมาะกับการลงทุนระยะยาว
ทั้งนี้ ปัจจัยการเมืองที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลกระทบระยะสั้น โดยเหตุการณ์ชุมนุมที่เกิดขึ้นตลาดหลักทรัพย์ได้มีการประชุมกับผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ในวันศุกร์ที่ผ่านมาที่จังหวัดเชียงราย เพื่อประเมินสถานการณ์โดยบริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งได้มีการเตรียมพร้อมในการรับมือ นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯยังมีมาตรการในการดูแลเรื่องการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่จะมีการแกว่งตัว เรื่องซิลลิ่งฟลอร์ รวมถึงเซอร์กิต เบรกเกอร์อยู่แล้ว
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ผันผวนไปตามกระแสข่าวทางการเมือง โดยในช่วงเช้าปรับตัวลงมาหลังจากที่มีข่าวเรื่องม็อบจะเคลื่อนไป 3 จุด แต่พอสาย ๆ ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ทำให้ตลาดฯปรับตัวขึ้นมาได้บ้างแม้จะยังอยู่ในแดนลบ ขณะที่ในช่วงบ่ายมีข่าววิปรัฐบาล จะให้มีการเปิดประชุมร่วมใน 13 พ.ย.นี้ เพื่อเจรจาหาทางออก ทำให้ดัชนีฯกลับขึ้นมาเป็นบวกได้บ้าง
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันนี้(12 พ.ย.) คาดว่าดัชนีคงจะยังผันผวนตามกระแสข่าวทางการเมือง ซึ่งจะต้องติดตามดูว่าการชุมนุมทางการเมืองจะดำเนินการอย่างไรต่อไป พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด หากหลุดจะมีสัญญาณที่ไม่ดีนักและจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,350-1,330 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,420 จุด
ตลาดหุ้นไทย ผันผวนแรงในช่วงเช้าปรับตัวลดลงกว่า 25 จุด แต่มีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงบ่ายทำให้ดัชนีกลับมาปิดที่ระดับ 1,405.91 เพิ่มขึ้น 0.88 จุด หรือ 0.06% มูลค่าการซื้อขาย 32,285.22 ล้านบาท ภาพรวมรวมดัชนีผันผวนไปตามกระแสข่าวทางการเมือง โดยรวมนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,848.73 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 191.17 ล้านบาท ขณะที่สถาบัน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซื้อสุทธิ 2,494.49 ล้านบาท และ545.42 ล้านบาท
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท. และโบรกเกอร์ ได้เตรียมความพร้อม สำหรับระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ หากเกิดกรณีฉุกเฉินจากสถานการณ์การเมืองในประเทศ จึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะทำให้การซื้อขายเดินหน้าได้ตามปกติ
ส่วนที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงท้ายตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเช้าจากที่มีการปรับตัวลดลงแรง เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ราคาหุ้นต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ทำให้ P/E ต่ำ ซึ่งเหมาะกับการลงทุนระยะยาว
ทั้งนี้ ปัจจัยการเมืองที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลกระทบระยะสั้น โดยเหตุการณ์ชุมนุมที่เกิดขึ้นตลาดหลักทรัพย์ได้มีการประชุมกับผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ในวันศุกร์ที่ผ่านมาที่จังหวัดเชียงราย เพื่อประเมินสถานการณ์โดยบริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งได้มีการเตรียมพร้อมในการรับมือ นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯยังมีมาตรการในการดูแลเรื่องการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่จะมีการแกว่งตัว เรื่องซิลลิ่งฟลอร์ รวมถึงเซอร์กิต เบรกเกอร์อยู่แล้ว
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ผันผวนไปตามกระแสข่าวทางการเมือง โดยในช่วงเช้าปรับตัวลงมาหลังจากที่มีข่าวเรื่องม็อบจะเคลื่อนไป 3 จุด แต่พอสาย ๆ ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ทำให้ตลาดฯปรับตัวขึ้นมาได้บ้างแม้จะยังอยู่ในแดนลบ ขณะที่ในช่วงบ่ายมีข่าววิปรัฐบาล จะให้มีการเปิดประชุมร่วมใน 13 พ.ย.นี้ เพื่อเจรจาหาทางออก ทำให้ดัชนีฯกลับขึ้นมาเป็นบวกได้บ้าง
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันนี้(12 พ.ย.) คาดว่าดัชนีคงจะยังผันผวนตามกระแสข่าวทางการเมือง ซึ่งจะต้องติดตามดูว่าการชุมนุมทางการเมืองจะดำเนินการอย่างไรต่อไป พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด หากหลุดจะมีสัญญาณที่ไม่ดีนักและจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,350-1,330 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,420 จุด