xs
xsm
sm
md
lg

“จรัมพร” เผยไม่หวั่นแก๊ง 4 โมงเย็นกอดคอ ก.ล.ต.คุมเข้มต่อเนื่องยังไม่พบพิรุธ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ผู้จัดการตลาดหุ้นไทยเผยไม่หวั่นแก๊ง 4 โมงเย็น เพราะร่วมมือกับ ก.ล.ต. จับตาดูต่อเนื่องมาตลอด  4 เดือน ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ เหตุนักลงทุนวิตกไปเอง เพราะตลาดหุ้นไทยปิดหลังสุดในทุกตลาดเอเชีย คร่อมเวลาที่ตลาดยุโรปเปิด จึงไม่แปลกที่จะเห็นเงินทุนใหลเข้าออก เพราะกระจายในทุกกลุ่มไม่ใช่บิ๊กล็อต 

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า จากกรณีความผันผวนของตลาดหุ้นในช่วงเวลา 15.30-14.00 น. ซึ่งมีความผิดปกติ และสร้างความกังวลต่อนักลงทุนที่ผ่านมา ตลท.ได้จับตาดูมาตลอดระยะเวลากว่า 3-4 เดือนแล้ว ร่วมกับ ก.ล.ต. โดยล่าสุด ที่ดัชนีผันผวนปรับตัวลงลง 8 จุด ถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวลใจ เพราะมาจากการซื้อขายของนักลงทุนในหลายกลุ่ม ทั้งบัญชี สถาบัน นักลงทุนต่างประเทศ นักลงทุนรายย่อย หรือแม้แต่บริษัทหลักทรัพย์เองก็ตาม ด้วยข้อเท็จจริงจึงไม่มีเหตุที่น่าสงสัย ในเรื่อง “แก๊ง 4 โมงเย็น” ในขณะเดียวกัน ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอด มีเพียงช่วงระยะเวลานี้เท่านั้นที่ดัชนีหุ้นผันผวน ซึ่งปรับตัวตามทิศทางเศรษฐกิจ แต่ทั้งนี้ สิ่งที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญคือ ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดหุ้นเดียวที่ปิดตลาดหลังสุดในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งคาบเกี่ยวกับช่วงเวลาการเปิดตลาดหุ้นยุโรป เพราะฉะนั้นหากนักลงทุนที่จะเข้ามาซื้อขายในช่วงเวลาเปลี่ยนถ่ายจึงไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ แต่ถ้าเป็นการซื้อขายจำนวนมาก และไม่ใช่ในลักษณะที่กระจายตัวจะเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนกว่า 

ทั้งนี้ เท่าที่ดูข้อมูลในหลายวันที่ผ่านมามีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศเข้ามามาก ถือเป็นสิ่งที่นักลงทุน และตลาดหุ้นพยายามให้ข้อมูลแก่นักลงทุน หลังจากหลายวันก่อนที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงลงมาแรง ส่วนหนึ่งมาจากความกังวลในประเทศอินเดีย และอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนั้นตลาดหุ้นไทยก็ปรับตัวลดลงด้วยเช่นกัน ทั้งกลุ่ม TIP หากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานทั้งหมด และประเทศไทยไม่ได้เปราะบาง เนื่องจากสิ่งที่กังวลเป็นประเทศที่มีบัญชีเดินสะพัดขาดดุล ซึ่งทำให้นักลงทุนต่างประเทศมีความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนมากขึ้นว่าจะไม่มีอะไรที่น่าวิตกกังวลมากนัก 

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในช่วงเวลา 2 วันที่ผ่านมาที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมานั้น สะท้อนมุมมองการลงทุนที่ดี ไม่เหมือนกับตอนที่ขายหุ้นของกลุ่ม TIP พร้อมๆ กัน ส่วนแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนั้น ยังต้องจับตามองธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าจะยังคงมาตรการต่อไป หรือว่าจะยกเลิกก่อนกำหนดหรือไม่ เชื่อมั่นว่าจะยังคงมีความผันผวนอยู่ นักลงทุนควรลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีรองรับ และลงทุนระยะยาว โดยในช่วงที่หุ้นราคาถูกถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมต่อการลงทุน เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยยังมีศักยภาพในการทำกำไร และจ่ายปันผลได้อย่างต่อเนื่องอยู่  ทั้งนี้ นักลงทุนควรพิจารณาเลือกว่าจะลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมประเภทใดจะได้ประโยชน์มากที่สุด ซึ่งจะมีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท และแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยควบคู่กันไป

ในส่วนของรูปแบบการลงทุนในอนาคตของไทยอาจจะเน้นในรูปแบบของโฮลดิ้งคอมพานีมากขึ้น ซึ่งได้มี บมจ.ซีเค พาวเวอร์ หรือ CKP ได้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าในประเทศลาว และจดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่ดี และแนวโน้มในอนาคตคาดว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนประเภทนี้มากขึ้น ซึ่งต้องเลือกประเภทของธุรกิจที่จะเข้ามาจดทะเบียนเพื่อระดมทุนว่ามีความจำเป็น และมีศักยภาพต่อการผลักดันเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการลงทุนนั้นสิ่งสำคัญคือ ควรจะลงทุนที่ไหน และรายได้จะมาอย่างไร ผู้บริหารเป็นใคร มีความโปร่งใสในการบริหารจัดการมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะต้องใช้เวลาอย่างค่อยเป็นค่อยไป   

 
กำลังโหลดความคิดเห็น