xs
xsm
sm
md
lg

ตลท.ชี้พิษเงินไหลออกฉุดหุ้นร่วงหนัก “ขุนคลัง” ยันเป็นเรื่องธรรมดาของตลาดทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิษเงินไหลออกฉุดหุ้นร่วงกว่า 30 จุด ดัชนีเกือบหลุดระดับ 1,260 จุด “จรัมพร” ยอมรับปัจจัยหลักที่กดดันตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ คือ กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายออกจากตลาดภูมิภาค ส่วนสถานการณ์ในซีเรีย ยังไม่ได้กระทบมากนัก “กิตติรัตน์” มองหุ้นร่วงแรงช่วงนี้เป็นเรื่องธรรมดาของตลาดทุน เม็ดเงินที่ไหลออกไปแล้วถือเป็นเงินที่เก็งกำไรในระยะสั้น เกิดจากผลการชะลอ “คิวอี” ขณะที่อินโดฯ เตรียมใช้มาตรการสกัด “รูเปียะห์” ถูกถล่ม ตลาดฯ คาดปรับขึ้น ดบ. ชะลอเงินไหลออก

ภาวะตลาดหุ้นภาคเช้า (28 ส.ค.) ดัชนียังคงดิ่งลงต่อเนื่อง และแกว่งตัวผันผวนในแดนลบ โดยเมื่อเวลา 10.52 น. ดัชนีปรับลงไปที่ระดับ 1,264.28 จุด ลดลง 29.69 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -2.29% มูลค่าการซื้อขาย 14,141.43 ล้านบาท และเมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ดัชนีปรับลงไปลึกแตะที่ระดับ 1,260 จุด

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรณีที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง และมีความผันผวนคาดว่าอาจส่งผลมาจากการที่สหรัฐฯ จะชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รอบที่ 3 อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจในประเทศไทยยังมีเสถียรภาพที่นักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุน

ทั้งนี้ มองว่าเงินลงทุนในตลาดหุ้นของนักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในระยะยาว ส่วนเงินที่ไหลออกจากประเทศไทยนั้นเป็นเงินที่เก็งกำไรในระยะสั้น ซึ่งเริ่มมีสัญญาณการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติที่ลดน้อยลง

“จากการที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง และผันผวนขณะนี้ มองว่าเป็นเรื่องธรรมดาของตลาดทุน และนักลงทุนต่างชาติก็มีความเข้าใจ และเชื่อมั่นในเสถียรภาพของประเทศ โดยที่ผ่านมา เป็นการขายเพื่อทำกำไรหลังจากที่สหรัฐฯ ได้ดำเนินการมาตรการ QE แต่หลังจากนี้มองว่าเงินในระบบปัจจุบัน จะเป็นการลงทุนในระยะยาวของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเริ่มเห็นได้จากสัญญาณการขายสุทธิที่น้อยลง”

ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยอมรับว่า ปัจจัยหลักที่กดดันตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ คือ กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายออกจากตลาดภูมิภาค ส่วนสถานการณ์ในซีเรียยังไม่ได้กระทบมากนัก แต่ก็จะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาค เตรียมใช้มาตรการแก้ปัญหาค่าเงินในประเทศถูกโจมตี โดยล่าสุด มีรายงานข่าวว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) จะจัดการประชุมคณะกรรมการนดยบายการงินนัดพิเศษในวันพรุ่งนี้

ขณะเดียวกัน ตลาดก็มีกระแสคาดการณ์ในวงกว้างว่า BI อาจจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง เพื่อปกป้องค่าเงินรูเปียห์ที่ทรุดตัวลงอย่างมาก ทั้งนี้ เงินสกุลรูเปียะห์ทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในการซื้อขายเช้านี้ อยู่ที่ 10,900 แต่ทรุดตัวลง 11.7% แล้วนับตั้งแต่ต้นปีนี้

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.14 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,263.55 จุด ลดลง 30.42 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -2.35% มูลค่าการซื้อขาย 17,372.46 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น