ผู้จัดการตลาดหุ้นไทยยิ้มร่า Thailand Focus 2013 นักลงทุนสถาบันต่างชาติแห่ร่วมประชุมกว่า 186 ราย สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ และผู้เข้าร่วมงานอีกกว่า 1 พันคน พร้อม บจ.กลุ่มลุ่มน้ำโขงเข้าร่วมอีกกว่า 5 แห่ง เสริมความเชื่อมั่นตลาดทุนไทยในโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รองรับ AEC 2015
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดงาน Thailand Focus 2013 ในปีนี้ ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีตัวเลขผู้เข้าร่วมงานสูงเป็นประวัติการณ์เกือบ 1 พันคน โดยมีนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศเข้าร่วมสูงถึง 186 คน และนักลงทุนในประเทศจำนวนมาก ทั้งนี้ ยังมีบริษัทจดทะเบียนที่เข้าร่วมเสนอข้อมูล 112 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด SET จำนวน 105 บริษัท และบริษัทจดทะเบียนในตลาด mai จำนวน 7 บริษัท นอกจากนี้ ยังมีบริษัทจดทะเบียนกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง หรือ GMS จำนวน 5 ราย ได้แก่ ตลาดหุ้นลาว กัมพูชา ฮานอย และโฮจิมินห์ มากกว่าที่คาดไว้ ซึ่งสามารถนำเสนอข้อมูลการลงทุนให้แก่นักลงทุนจากแหล่งทุนต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทย ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 4 แสนล้านบาท และแนวโน้มตลาดภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่เติบโตสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางในการลงทุน และการพัฒนาตลาดทุนร่วมกัน
ด้าน นายกฤติยา วีรบุรุษ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ภัทร กล่าวว่า ในการจัดงานครั้งนี้ มีนักลงทุนสนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เพราะประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียนเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง แม้ในระยะสั้นจะมีปัจจัยเสี่ยงและมีความผันผวนเช่นเดียวกับตลาดเกิดใหม่อื่นๆ บ้างก็ตาม โดยนักลงทุนจำนวนมากมองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันมีความน่าสนใจและเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน การสัมมนาครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้ผู้ลงทุนเข้าใจตลาด และจังหวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และตลาดในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น โดยมีโอกาสในการแลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้บริหารบริษัท และยังได้ประสบการณ์ตรงจากการเยี่ยมชมกิจการซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจ และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับบริษัท นอกจากนี้ ผู้ลงทุนยังมีความสนใจในแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย แผนและความคืบหน้าในโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนศักยภาพในการขยายตัวของเศรษฐกิจภูมิภาค และการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่ประเทศจีนลงมาจนถึงประเทศไทย และภูมิภาคทั้งหมด อย่างไรก็ดี จากการที่นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นออกจากตลาดหุ้นไทยกว่า 1 แสนล้านบาทยังถือว่าเป็นจำนวนน้อย หากเทียบกับสินทรัพย์หุ้นที่มีในตลาดหุ้นไทยกว่า 3 ล้านล้านบาท ซึ่งมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหุ้นไทยทั้งหมดรวมกว่า 12 ล้านล้านบาท
ในส่วนของ น.ส.อรกัญญา พิบูลธรรม Country Head & Managing Director Bank of America Merrill Lynch กล่าวว่า เนื่องจากประเทศไทยมีโครงสร้างทางการเงินการลงทุน และระบบภาษีที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการดำเนินนโยบายด้านการเงินการคลังที่ระมัดระวัง และมีความต่อเนื่อง นักลงทุนต่างประเทศส่วนใหญ่จึงยังมองเห็นช่องทาง และโอกาสในการลงทุนที่หลากหลายอยู่มาก แม้ว่าในขณะนี้สถานการณ์ดัชนีหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลดลงบ้าง แต่หากมองในระยะยาวถือเป็นโอกาสในการลงทุน ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพ และเป็นประเทศเศรษฐกิจชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีอัตราการเติบโตสูง มีแรงดึงดูดในการลงทุนเทียบเท่าประเทศสิงคโปร์ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักลงทุนต่างประเทศส่วนใหญ่กังวลคือความล่าช้าของ พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท โดยจะทำให้สูญเสียโอกาส และผลประโยชน์ในการลงทุน อย่างไรก็ดี นักต่างประเทศที่มาร่วมงานยังให้น้ำหนักต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย และการเชื่อมโยงการของภูมิภาคที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง เพื่อรองรับการลงทุนที่จะเพิ่มขึ้นจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 (AEC2015) ซึ่งมีภาคธุรกิจที่หลากหลาย