นักวิเคราะห์ชี้ “การเมือง-แรงขายต่างชาติ” ถือเป็น 2 ปัจจัยหลักที่กดดันตลาดหุ้นไทย ตลาดฯ คาดหวังเชิงบวกการชุมนุมฯ ใกล้ยุติได้ แต่ยังมีแรงเทขายเพราะท่าทีรัฐบาลไม่ชัดเจน นายกฯ ยืนยันไม่ลาออก และไม่ยุบสภา แนะจับตาวันที่ 6 ธ.ค. การเมืองจะมีพัฒนาการอย่างไร
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทย โดยมีความคาดหวังเชิงบวกว่า สถานการณ์การชุมนุมฯ น่าจะมีโอกาสที่ใกล้จะยุติในเร็วๆ นี้ แต่ก็จะมีแรงขายทำกำไรกดดันออกมาเป็นระยะๆ เนื่องจากท่าทีของรัฐบาลยังไม่ชัดเจน ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมยังมีท่าทีแข็งกร้าว และยืนยันผลักดันเป้าหมายโค่นระบอบทักษิณ
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นต่างประเทศเริ่มกลับมาแกว่งด้านลบอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะตัดสินใจชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลง (คิวอี) โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังรอจับตาดูการประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ (6 ธ.ค.) อีกครั้ง นอกจากนี้ แรงขายของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทยก็ยังมีออกมากดดันตลาดฯ อยู่อย่างต่อเนื่องด้วยปริมาณที่มากพอควร
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในช่วง 2 วันนี้ จะเป็นช่วงเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้คาดว่าความร้อนแรงทางการเมืองจะบรรเทาลง และนักลงทุนยังคาดหวังว่า หลังจากนั้นสถานการณ์การเมืองน่าจะดูดีขึ้น ทำให้คาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาพยุงตลาดไว้ได้
ด้านนักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังมีโอกาสแกว่งตัว และมีช่วงลงบ้างแต่ไม่มากนัก โดยมีปัจจัยมาจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป ลงแรง เป็นลักษณะล็อกกำไร ก่อนตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ ออกในคืนนี้ และคืนวันศุกร์ ซึ่งอาจสร้างความกังวลต่อการชะลอมาตรการคิวอี ประกอบกับการเมืองไทยสงบชั่วคราวในช่วงวันมหามงคล 5 ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ ประเมินว่าทางออกยุติความขัดแย้งการเมืองยังไม่ชัดเจน หลังนายกรัฐมนตรี ไม่ประกาศลาออก หรือยุบสภา ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมคงอยู่ในที่ตั้ง คงต้องจับตาวันที่ 6 ธ.ค. เพื่อดูว่าจะมีพัฒนาการอย่างไร และต่างชาติยังเทขายหนักต่อเนื่องสะสมแล้ว 1.6 แสนล้านบาท จากต้นปี และมีแนวโน้มขายต่อไป
และวันนี้หากดีดขึ้น หรือปิดเหนือแนวรับ 1,375 จุด อาจรักษากำลังผลักสะสมขึ้นสู่ต้าน 1,405 จุด แต่หากดัชนีลดลงปิดต่ำกว่ารับ 1,375 จุด อาจสะสมแรงกดทางลงสู่แนวรับ 1,355 จุด