หุ้นส่งท้ายวันศุกร์สุดสวิง เปิดบวก 10 จุด รับข่าว “เฟด” คง “คิวอี” ต่อเนื่อง ก่อนดิ่งลงในแดนลบ เพราะเจอแรงขายลดความเสี่ยง และท้ายตลาดกลับมาปิดบวกได้ 4.97 จุด ต่างชาติขายอีก 1.5 พันล้าน ต่อเนื่องเป็น 12 วันทำการ โบรกฯ แนะจับตาการเมือง “จีดีพี” ไตรมาส 3/56 ส่วนทิศทางสัปดาห์หน้า คาดยังผันผวน
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (15 พ.ย.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,420.66 จุด เพิ่มขึ้น 4.97 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.35% มูลค่าการซื้อขาย 27,184.68 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ธนาคาร ตามด้วยกลุ่มพาณิชย์ พลังงาน และวัสดุก่อสร้าง ขณะที่มีแรงขายในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนวันนี้ นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 1.7 พันล้านบาท นักลงทุนรายย่อย ขายสุทธิ 510 ล้านบาท สถาบัน ซื้อสุทธิ 951 ล้านบาท และบัญชีโบรกเกอร์ ซื้อสุทธิ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งพบว่านักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 12 คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท
สำหรับภาพรวมความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ เปิดตลาดดัชนีปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 10 จุด และปรับขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดที่ 1,427.69 จุด ซึ่งเป็นการรับข่าวดีจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะคงมาตรการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน รวมถึงการประกาศชุมนุมใหญ่ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส่งผลให้นักลงทุนเทขายฉุดดัชนีปรับลดลงไปติดลบที่ 1,414.30 จุด และปิดการซื้อขายที่ 1,420.66 จุด
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย ยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างผันผวน โดยมีปัจจัยบวกจากการที่เฟดยังคงใช้มาตรการ QE ต่อไปอีก ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศจากสถานการณ์ทางการเมืองในเรื่องของการชุมนุมยังส่งผลกระทบในเชิงลบ ซึ่งเย็นวันนี้จะมีการยกระดับการชุมนุมขึ้น
โดยในสัปดาห์หน้า ต้องติดตามการประชุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมถึงการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องที่มาของ ส.ว. ขณะที่ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่วันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก
แนวโน้มดัชนีสัปดาห์หน้า ตลาดยังคงมีความผันผวนอยู่ โดยปัจจัยจากต่างประเทศจะส่งผลในเชิงบวกเพิ่มขึ้น โดยมองว่าตลาดมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นได้ หากประเด็นทางการเมืองไม่มีความรุนแรง พร้อมให้แนวรับที่ 1,400 จุด และแนวต้าน 1,440-1,460 จุด
ด้าน น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าน่าจะเคลื่อนไหวผันผวน สลับทั้งแดนบวกและลบ โดยมีปัจจัยทางการเมืองอย่างการชุมนุมเพื่อคัดค้าน พ.ร.บ นิรโทษกรรม และการที่รัฐสภาจะมีการพิจารณา พ.ร.บ. 2 ล้านล้าน ในวันที่ 18-19 พ.ย เข้ากดดัน
สำหรับปัจจัยที่จะช่วยให้ดัชนีมีโอกาสเพิ่มขึ้น ได้แก่ การประเมินว่าเฟดอาจจะยังคงวงเงินมาตรการ QE ต่อไปจนถึงสิ้นปี สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยในสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1,470
กลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์หน้า แนะนำนักลงทุนรอซื้อเมื่อดัชนีปรับตัวลดลง และขายเมื่อดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยแนะนำหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง โดยประเมินแนวรับที่ 1,380 จุด และประเมินแนวต้านไว้ที่ 1,480 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
TRUE ปิดที่ 9.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือเปลี่ยนแปลง +4.62%
JAS ปิดที่ 8.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือเปลี่ยนแปลง +0.61%
CPALL ปิดที่ 41.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ADVANC ปิดที่ 235.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ +2.17%
INTUCH ปิดที่ 78.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +0.32%