xs
xsm
sm
md
lg

แนะจับตาผลการเจรจาฯ จะตกลงกันได้ตามที่ตลาดฯ คาดไว้หรือไม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โบรกฯ เผยมุมมองเชิงบวกเพดานหนี้สหรัฐฯ หนุนหุ้นปิดบวก 13 จุด ทิศทางเดียวกับตลาดในต่างประเทศ “ต่างชาติ” ยังซื้อต่อเนื่อง 900 ล้านบาท แนะจับตาผลการเจรจาฯ จะตกลงกันได้ตามที่ตลาดฯ คาดไว้หรือไม่

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (15 ต.ค.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,472.90 จุด เพิ่มขึ้น 13.06 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.89% มูลค่าการซื้อขาย 46,351.94 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพื้นฐาน สำหรับสัดส่วนผู้ลงทุนมีดังนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 990 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 3.1 พันล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1.2 พันล้านบาท และบัญชีโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 997 ล้านบาท

นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นแกว่งตัวผันผวนในแดนบวก ตอบรับข่าวประเด็นการเจรจาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุดผู้นำเสียงข้างมากในสมาชิกวุฒิสภา นายแฮร์รี รีด ได้ออกมาให้ความคิดเห็นถึงการเจรจาเรื่องเพดานหนี้สหรัฐฯ ว่ามีความคืบหน้ามากขึ้น ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังว่าวุฒิสภาทั้ง 2 ฝ่ายจะพยายามเจรจาหาแนวทางแก้ไขเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้สำเร็จในค่ำคืนนี้หรือก่อนถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้

ส่วนแนวโน้มในวันพรุ่งนี้ น่าจะขึ้นอยู่กับผลการเจรจาเรื่องการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ว่าจะตกลงกันได้ตามที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดไว้หรือไม่ หากตกลงกันได้ คาดว่าดัชนีในวันพรุ่งนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แต่หากยังตกลงไม่ได้คาดว่าดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวผันผวนเพื่อรอความคืบหน้าของประเด็นนี้ต่อไป ซึ่งปัจจัยที่ควรต้องติดตามยังคงเป็นความคืบหน้าของการเจรจาเพื่อขยายเพดานหนี้สาธารณะที่ 14.7 ล้านล้านเหรียญของสหรัฐฯ รวมถึงตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 3/2556

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนให้ถือ โดยหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มสื่อสาร กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

ด้าน น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นปรับตัวเพิ่มแรง บรรยากาศการลงทุนค่อนข้างดี มาจากนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อกรณีการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐอเมริกา

สำหรับทิศทางในวันพรุ่งนี้ที่ (16 ต.ค.) หากปัจจัยหลักในการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐอเมริกามีความชัดเจนมากขึ้น น่าจะเป็นบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นโดยรวม

โดยในทางกลับกัน หากสถานการณ์ยังมีความไม่ชัดเจน คาดว่าจะทำให้ดัชนีหุ้นมีความผันผวน โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวแนวต้านที่ระดับ 1,480 จุด และ 1,500 จุด แนวรับที่ระดับ 1,450 จุดและ 1,460 จุด

สำหรับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

TRUE ปิดที่ 9.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท หรือ 3.85% มูลค่าการซื้อขาย 2,623 ล้านบาท

IVL ปิดที่ 24.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.80 บาท หรือ 8.04% มูลค่าการซื้อขาย 2,292 ล้านบาท

CK ปิดที่ 23.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท หรือ 4.91% มูลค่าการซื้อขาย 2,054 ล้านบาท

KTB ปิดที่ 20.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 1.95% มูลค่าการซื้อขาย 2,025 ล้านบาท

TMB ปิดที่ 2.88 บาท ลดลง 0.08 บาท หรือ 2.70% มูลค่าการซื้อขาย 1,686 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น