หุ้นภาคบ่ายทรุดตามจีดีพี ดัชนีร่วงแรงกว่า 44 จุด หรือกว่า 3% หนักกว่าตลาดแถบเพื่อบ้าน โบรกฯ ยอมรับภาวะตลาดวันนี้อ่อนแอกว่าที่คาดเอาไว้ เผยนักลงทุนกังวล ศก.ชะลอตัวต่อเนื่อง 2 ไตรมาส เป็นสัญญาณไม่ดี แนะจุดหยุดขาดทุนไว้ที่ 1,400 จุด
ภาวะตลาดหุ้นไทยภาคบ่าย (19 ส.ค.) ดัชนียังคงดิ่งลงในแดนลบต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 14.55 น. ดัชนีปรับลงไปที่ระดับ 1,409.71 จุด ลดลง 36.05 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -2.49% มูลค่าการซื้อขาย 25,900.50 ล้านบาท โดยมีแรงขายออกมาในหุ้นมาร์เกตแคปขนาดใหญ่ นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี ธนาคารพาณิชย์ และพลังงาน ซึ่งพบว่าต่างชาติมีการเทขายในภาคเช้า 550 ล้านบาท
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ยอมรับว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนแอกว่าที่คาดเอาไว้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากที่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ศสช.) หรือสภาพัฒน์ ประกาศตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไตรมาส 2/56 เติบโตเพียง 2.8% ต่ำกว่าคาด และลดลง 0.3% จากไตรมาสก่อนหน้า จากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน แสดงให้เห็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และอาจส่งผลให้นักวิเคราะห์ปรับประมาณการลงได้
สำหรับประเด็นการเมือง ขณะนี้คงจะต้องจับตาช่วงกลางสัปดาห์นี้ว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ หรือไม่ ถ้าไม่ได้จะเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก เนื่องจากนักลงทุนจะกลับมากังวลการชะลอตัวเศรษฐกิจในมุมมองที่แย่ลงไปอีก แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้คาดว่าตลาดจะยังอยู่ในแดนลบ พร้อมให้แนวรับ 1,410 จุด แนวต้าน 1,440 จุด และจุดหยุดขาดทุน (stop loss) เอาไว้ที่ 1,400 จุด
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ปรับตัวลงค่อนข้างแรง -3.8% ในช่วงเช้า เนื่องจากเศรษฐกิจภายใน ส่วนตลาดฟิลิปปินส์ ปิดทำการในวันนี้ ดังนั้น ตลาดในกลุ่ม TIP (ไทย อินโดฯ ฟิลิปปินส์) จึงปรับตัวลงนำตลาดอื่นในเอเชีย เป็นผลจากเศรษฐกิจภายในของแต่ละประเทศ ขณะที่ตลาดอื่นแกว่งตัวทั้งในแดนบวก และลบไม่มาก
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.22 น. ดัชนีปรับลงไปที่ 1,401.13 จุด ลดลง 44.63 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -3.09% มูลค่าการซื้อขาย 39,137.58 ล้านบาท ซึ่งพบว่าความเคลื่อนไหวของดัชนีช่วงท้ายเกือบหลุดระดับ 1,400 จุด