หุ้นฝ่าด่าน 1,300 จุดไม่สำเร็จ ดัชนีภาคเช้าปิดร่วง 5 จุด ด้านสมาคมนักวิเคราะห์เร่งสำรวจความเห็นสมาชิก หลังดัชนีร่วงลงอยู่ในระดับ 1,200 จุด คาดกลางเดือนหน้าได้ข้อสรุป
ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (30 ส.ค.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,287.16 จุด ลดลง 5.37 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.42% มูลค่าการซื้อขาย 15,448.23 ล้านบาท โดยมีแรงขายออกมามากหลังดัชนีพยามยามขึ้นไปทดสอบ 1,300 จุด ซึ่งถือเป็นแนวที่สำคัญแต่ไม่ผ่าน
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ค่อนข้างผันผวนมาก โดยตลาดมีความพยายามที่จะขึ้นไปทดสอบระดับ 1,300 จุด แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถผ่านไปได้ ทั้งนี้ ตลาดภายนอกประเทศไม่ได้แย่มาก โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียก็มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ แต่ส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ในแดนบวก
ทั้งนี้ ตลาดได้ผ่อนคลายความกังวลลงจากที่การโจมตีในซีเรียเริ่มมีความไม่แน่นอน ทำให้ความตึงเครียดผ่อนคลายลงที่ยังไม่ได้มีการบุกในตอนนี้ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังเฝ้าติดตามเรื่องของ QE ต่อไปเรื่อยๆ จากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย คาดว่าตลาดคงจะพยายามที่จะขึ้นไปอยู่ในแดนบวกอีกครั้ง โดยมีแนวรับที่ 1,270 จุด แนวต้าน 1,300-1,310 จุด
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยว่า ทางสมาคมอยู่ระหว่างการจัดทำแบบสอบถามกับสมาชิกสมาคมครั้งใหม่ หลังจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และการหดตัวของจีดีพีประเทศไทย มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในทุกภาคธุรกิจอย่างชัดเจน ทำให้สมาคมต้องมีการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ใหม่อีกครั้ง
“ปกติแล้วทางสมาคมจะจัดทำผลสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ทุก 3 เดือน แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่เร่งด่วนจริงๆ ทำให้เราต้องจัดทำการสำรวจในช่วงนี้ ซึ่งห่างจากการสำรวจครั้งที่แล้วเพียง 2 เดือนเท่านั้น เนื่องจากสมาคมมีความเห็นว่ามีปัจจัยที่เข้ามากระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยตรง”
ปัจจัยที่เข้ามากระทบตลาดหุ้นไทยนั้นมาจากการชะลอตัวเศรษฐกิจในประเทศไทย และการปรับลดจีดีพีเป็นหลัก ส่วนปัจจัยการหยุดมาตรการคิวอีของสหรัฐฯ นั้นยังคงปกติ และยังไม่ส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาด รวมถึงความตึงเครียดของสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศซีเรียนั้น ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยน้อยมาก ที่ผ่านมา หลายบริษัทหลักทรัพย์ได้ปรับลดประมาณการระดับดัชนีสิ้นปีนี้ รวมถึงกำไรของบริษัทจดทะเบียนไปแล้ว
การประเมินครั้งนี้ คาดว่าดัชนีเป้าหมายปีนี้จะถูกปรับลดลงแน่นอน และคาดจะอยู่ระดับ 1,300-1,400 จุด รวมถึงกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) น่าจะมีการปรับตัวลดลงด้วย ทั้งนี้ สมาคมอยู่ระหว่างการร่างแบบสอบถาม โดยคาดจะสามารถส่งไปยังนักวิเคราะห์ในบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกของสมาคมได้ในปลายสัปดาห์นี้ และจะสามารถเผยแพร่บทวิเคราะห์ได้ในอีก 2 สัปดาห์