หุ้นไทยปิดลบ 50.08 จุด อยู่ที่ระดับ 1,436.68 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 50,628.29 ล้านบาท โบรกฯ คาดปัญหาภายในประเทศส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (23 ก.ย.) ปิดที่ระดับ 1,436.68 จุด ปรับตัวลดลง 50.08 จุด หรือ -3.37% มูลค่าการซื้อขาย 50,628.29 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,473.67 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,433.14 จุด ภาพรวมดัชนีหลักทรัพย์ร่วงลงแรงแต่นักลงทุนรายย่อยกลับซื้อกว่า 4,441.22 ล้านบาท ในขณะที่ค่าเงินบาทยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่อง
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น จำนวน 120 หลักทรัพย์ ลดลง 704 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 52 หลักทรัพย์
การซื้อขายสุทธิแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า สถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,481.15 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 299.18 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 1,660.89 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 4,441.22 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
INTUCH ปิดที่ 85.50 บาท ลดลง -3.75 บาท หรือ -4.20% มูลค่าการซื้อขาย 3,292,486 ล้านบาท
TRUE ปิดที่ 7.95 บาท ลดลง -0.55 บาท หรือ -6.47% มูลค่าการซื้อขาย 2,864,094 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง -8.50 บาท หรือ -5.00% มูลค่าการซื้อขาย 2,612,460 ล้านบาท
KTB ปิดที่ 20.60 บาท ลดลง -1.30 บาท หรือ -5.94% มูลค่าการซื้อขาย 2,172,734 ล้านบาท
CK ปิดที่ 21.70 บาท ลดลง -1.80 บาท หรือ -7.66% มูลค่าการซื้อขาย 1,948,294 ล้านบาท
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยร่วงลงแรงในวันนี้มองว่าอาจเป็นปัญหาภายในประเทศมากกว่าจึงส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศนั้นตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงมีผลสะท้อนต่อตลาดรวมการลงทุน อันเนื่องมาจากตลาดหุ้นดาวน์โจนส์ที่ปรับตัวร่วงลงแรง ทำให้ตลาดหุ้นทั่วทั้งภูมิภาคปรับตัวลดลงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม หากมองในภาพรวมตลาดหุ้นกลุ่ม TIP (Thailand Indonesia Philipin) ในระยะเวลา 3 สัปดาห์ล่าสุด ประเทศไทยปรับตัวขึ้นสูงสุดถึง 15% ประเทศอินโดนีเซียปรับตัวขึ้นมา 9% และประเทศฟิลิปปิน 5%
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ย.) พิจารณาทางด้านเทคนิคอาจปรับลดลงต่อเนื่องต่อไปอีก อาจมีแรงซื้อสลับกับขายออกเป็นระยะ ซึ่งจะต้องจับตาดูนักลงทุนต่างประเทศว่าจะมีการขายทำกำไรมากน้อยแค่ไหน ที่ก่อนหน้านี้ ได้เข้ามาซื้อเก็งกำไรค่อนข้างมาก ทั้งนี้ คาดแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,420-1,400 จุด ส่วนแนวต้านจะอยู่ที่ 1,440-1,460 จุด
