หุ้นปิดครึ่งวันเช้าปรับลดลง 20.59 จุด นักลงทุนลดความเสี่ยง เทขายหุ้นเพื่อรอดูสถานการณ์การเมืองในประเทศ แนะจับตาม็อบยกระดับการชุมนุมฯ
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (11 พ.ย.) ดัชนีปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ระดับ 1,384.44 จุด ลดลง 20.59 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.47% มูลค่าซื้อขาย 13,884.82 ล้านบาท นักลงทุนลดความเสี่ยง เทขายหุ้นเพื่อรอดูสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยมีแรงขายนำหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี และธนาคาร ซึ่งวอลุ่มการซื้อขายคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของตลาด ตามด้วยแรงขายหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ พลังงาน และขนส่ง
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ปรับตัวลดลงแรงเนื่องจากโดนปัจจจัยกดดันจากประเด็นทางการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจนสร้างความกังวลให้แก่นักลงทุน ทั้งประเด็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และยังรอคำตัดสินของศาลโลกกรณีเขาพระวิหารในช่วงเย็นวันนี้
สำหรับแนวโน้มหุ้นในช่วงบ่าย ประเมินว่าดัชนีมีโอกาสปรับลงได้ต่อเนื่องจากการซื้อขายภาคเช้า จากปัจจัยกดดันตัวเดิม เพราะความชัดเจนจากประเด็นที่นักลงทุนกังวลอยู่จะยังไม่มีความชัดเจนจนกระทั่งช่วงปิดการซื้อขาย
ทั้งนี้ นักลงทุนยังกังวลใจประเด็นการเมืองเพราะยังไม่มีความชัดเจนจนถึงตลาดหุ้นปิดการซื้อขายไปแล้ว โดนเฉพาะประเด็นเขาพระวิหารอาจประเด็นเพิ่มเข้ามา และตอนนี้ผู้ชุมนุมหลายกลุ่มได้เริ่มยกระดับการชุมนุมขึ้น โดยประเมินกรอบแนวรับแรกไว้ที่ 1,380 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,360 จุด แนวต้านที่ 1,400 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
ADVANC มูลค่าซื้อขาย 1,072 ล้านบาท ปิดที่ 222 บาท ลดลง 6.00 บาท (-2.63%)
TRUE มูลค่าซื้อขาย 984 ล้านบาท ปิดที่ 7.85 บาท ลดลง 0.25 บาท (-3.09%)
SCB มูลค่าซื้อขาย 756 ล้านบาท ปิดที่ 164.00 บาท ลดลง 2.50 (-1.50%)
PTT มูลค่าซื้อขาย 605 ล้านบาท ปิดที่ 307.00 บาท ลดลง3.00 (-0.97%)
CPALL มูลค่าซื้อขาย 602 ล้านบาท ปิดที่ 39.75 บาท ลดลง -0.75 (-1.85%)