หุ้นส่งท้ายสัปดาห์ปิดลบ 20 จุด โบรกฯ ยอมรับการเมืองยังเป็นจัยหลักกดดันตลาดฯ สถานการณ์ยังไม่สามารถคาดเดาได้ เพราะช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ปัจจัยกระทบอาจมีพัฒนาการต่อไปอีก ยอมรับนักลงทุนผวา นปช. คืนชีพ ประกาศตั้งเวทีชน 10 พ.ย.นี้ เตือนตอนนี้รัฐบาลทำทุกอย่างมะรุมมะตุ้มไปหมด คาดสัปดาห์หน้าหลุด 1,400 จุด
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (8 พ.ย.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,405.03 จุด ลดลง 20.20 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.42% มูลค่าการซื้อขาย 36,670.70 ล้านบาท ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนวันนี้ ต่างชาติขายสุทธิ 1.3 พันล้านบาท รายย่อยซื้อสุทธิ 3.7 ล้านบาท สถาบันขายสุทธิ 1.3 พันล้านบาท บัญชีโบรกเกอร์ขายสุทธิ 1 พันล้านบาท
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงแรงยังเป็นประเด็นเรื่องกังวลการเมืองเพราะล่าสุด มีข่าวกลุ่ม นปช.เพื่อไทย จะมาชุมนุมในวันที่ 10 พ.ย.ที่สนามศุภชลาสัย ทางพรรรคเพื่อไทยเริ่มมีการเคลื่อนไหวการชุมนุมบ้าง หลังจากก่อนหน้ามีแต่การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านนิรโทษกรรม
“สิ่งที่ตลาดกังวลคือ ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วอุณหภูมิการเมืองจะร้อนแรงขึ้นหรือไม่ เพราะหลายๆ กลุ่มเข้ามาเจอกัน เป็นเรื่องหลักสำหรับหุ้นไทยวันนี้ ต้องรอดูเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร”
ส่วนเรื่องร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รอดูการประชุมของวุฒิสภา เพราะวันนี้ที่ประชุม ส.ว.ก็ยังไม่ครบองค์ประชุม ซึ่งถ้าไม่ครบก็โหวตไม่ได้ รอดูว่าจะเลื่อนเป็นพรุ่งนี้ หรือวันจันทร์ที่ 11 พ.ย.นี้
สำหรับทิศทางสัปดาห์หน้า คาดว่าตลาดยังเคลื่อนไหวผันผวน หากหลุด 1,400 จุด ประเมินแนวรับแรกที่ 1,380 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,350 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอารวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า วันนี้ดัชนียังถูกดดันจากประเด็นการเมืองเป็นหลัก และการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของวุฒิสภาในวันนี้ ก็ยังไม่สิ้นสุด และไม่รู้ว่าจะมีการพิจารณาต่อเนื่องไปในวันเสาร์-อาทิตย์นี้อย่างไรบ้าง
ขณะเดียวกัน ในวันหยุดนี้ต้องติดตามการพัฒนาความเคลื่อนไหวของม็อบที่บ้างก็ยกระดับการชุมนุมเป็นการขับไล่รัฐบาล และก็มีม็อบกลุ่มเสื้อแดงเพิ่มขึ้นมาอีก
“คาดว่าในวันจันทร์นี้จะมีเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดทั้ง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และเรื่องเขาพระวิหาร ดังนั้น ทุกอย่างจะมะรุมมะตุ้มไปหมด”
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำให้ถือพอร์ตหุ้นระหว่าง 25-50% โดยยังมีช่องให้นักลงทุนเก็งกำไรได้เมื่อขึ้นขายลงซื้อในกรอบดัชนี 1,380 จุด โดยแนวรับแรกสำคัญอยู่ที่ 1,360 จุด และแนวรับต่อไปที่ 1,320 จุด ซึ่งก็ยังไม่กลับไปที่จุดต่ำสุดเดิม
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,817 ล้านบาท ปิด 228.00 บาท ลดลง 8.00 บาท (-3.39%)
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 2,402 ล้านบาท ปิด 77.50 บาท ลดลง 2.50 บาท (-3.12%)
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,693 ล้านบาท ปิด 7.95 บาท ลดลง 0.25 บาท (-3.05 %)
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,629 ล้านบาท ปิด 8.10 บาท ลดลง 0.35 บาท (-4.14 %)
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,607 ล้านบาท ปิด 166.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง