โบรกฯ เผยตลาดหุ้นไทยยังคงให้น้ำหนักประเด็นการเมืองภายในประเทศเป็นหลัก

โบรกฯ ประเมินตลาดหุ้นวันนี้ยังถูกกดันจากปัจจัยการเมือง เพราะยังมีความคลุมเครือ และยังอธิบายไม่ได้ว่าการชุมนุมจะจบลงเมื่อไร คาดตลอดสัปดาห์นี้นักลงทุนยังคงความสนใจกับประเด็นการเมืองภายในประเทศเป็นหลัก พร้อมแนะ 4 กลยุทธ์รับมือหุ้นผันผวน

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองภาพรวมการลงทุนในวันนี้ (5 พ.ย.) โดยประเมินว่า หุ้นไทยยังมีโอกาสปรับตัวลงได้อีก เพราะได้รับปัจจัยลบทางการเมืองในประเทศ ซึ่งยังมีความคลุมเครือที่ยังอธิบายไม่ได้ว่า การชุมนุมจะจบลงเมื่อใดยิ่งกดดันบรรยากาศในการลงทุน

ทั้งนี้ ประเมินว่าการชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ มีผู้เข้าร่วมมากขึ้น และหลากหลายกลุ่มได้ประกาศจุดยืน ดังนั้น สถานการณ์การเมืองอาจจะยืดเยื้อ และทวีความร้อนแรงขึ้นได้จึงต้องคอยติดตามดูต่อไป

นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าประเด็นทางการเมืองจะกดดันการลงทุนในตลาดหุ้นในช่วง 1 เดือนนี้ เนื่องจากมีประเด็นอีกหลายอย่างที่นักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์ ตั้งแต่เรื่องเขาพระวิหาร การพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของสมาชิกวุฒิสภา การพิจารณา พ.ร.บ.เงินกู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยยอมรับว่าตลอดสัปดาห์นี้ นักลงทุนยังคงความสนใจกับประเด็นการเมืองภายในประเทศ ภายหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ส่งผลให้กลุ่มคัดค้านประกาศชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ทางบริษัทมีความกังวลว่า ความตึงเครียดทางการเมืองอาจฉุดให้ปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นลดลง ซึ่งจากสถิติย้อนหลังในอดีตพบว่า หากมีความเสี่ยงทางด้านการเมืองภายในประเทศ ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวได้แย่กว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามมี 4 ประเด็น ดังนี้

1.ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียในสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นโดยเฉลี่ย 0.5% สวนทางตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง 2% มากกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค เนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองยังคงเป็นประเด็นกังวลหลัก 2.กระแสเงินลงทุนโดยดูจากทิศทางค่าเงินบาท แนวโน้มคาดแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 31-31.2 บาท/เหรียญสหรัฐ หากทะลุไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอาจบ่งชี้ถึงกระแสเงินลงทุนที่ไหลเข้า และออกอย่างชัดเจน

3.สถานการณ์การเมืองในประเทศ กรณีการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ จะมีเหตุการณ์ความรุนแรงหรือไม่ และ 4.สัญญาณทางเทคนิค หากดัชนีปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน 1,430 จุด ประเมินแนวรับถัดไปบริเวณ 1,400 จุด

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เมื่อภาวะตลาดหุ้นคาดยังผันผวน นักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงสูงได้แนะนำทยอยเข้าลงทุนในหุ้นที่มีสัญญาณแข็งแกร่งมากกว่าตลาด ส่วนนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงปานกลาง-ต่ำ แนะนำรอสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนของตลาด คาดว่าแนวรับจะอยู่บริเวณ 1,400 จุด