บมจ.การบินไทย แจ้งผลงานไตรมาส 3/56 รวมบริษัทย่อย มีรายได้รวม 51,351 ล้านบาท ขาดทุนจากการดำเนินงาน (Operating Loss) 2,087 ล้านบาท จากปีก่อนกำไร 2,490 ล้านบาท เนื่องจากผลของอุตสาหกรรมการบินที่ยังมีการแข่งขันสูง และได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในภูมิภาคต่างๆ ในโลก ทำให้การเติบโตของรายได้ยังมีอัตราต่ำกว่าค่าใช้จ่าย
นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ รับทราบผลประกอบการของบริษัทฯ ไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2556 บริษัทฯ และบริษัทย่อย ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ไทย-อะมาดิอุสเซาท์อีสต์เอเชีย จำกัด บริษัท วิงสแปนเซอร์วิสเซส จำกัด บริษัท ไทยไฟลท์เทรนนิ่ง จำกัด และบริษัท ทัวร์เอื้องหลวง จำกัด ซึ่งงบการเงินรวมของไตรมาส 3 ปี 2556 ไม่รวมบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด เป็นบริษัทย่อย เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2556 มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ ซึ่งมีจำนวนกรรมการรวมเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯ ไม่มีอำนาจควบคุมผ่านคณะกรรมการบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด เหมือนปีก่อน นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2556 บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 125 ล้านหุ้น มีผลทำให้สัดส่วนการถือครองหุ้นของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ลดลงจากร้อยละ 49 เป็นร้อยละ 39.2 ไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2556
บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 51,351 ล้านบาท ขาดทุนจากการดำเนินงาน (Operating Loss) 2,087 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อนมีกำไร 2,490 ล้านบาท เนื่องจากผลของอุตสาหกรรมการบินที่ยังมีการแข่งขันสูง และได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในภูมิภาคต่างๆ ในโลก ทำให้การเติบโตของรายได้ยังมีอัตราต่ำกว่าค่าใช้จ่าย โดยมีรายได้จากค่าโดยสาร และรายได้จากหน่วยธุรกิจ และกิจการอื่นสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากการขยายการผลิต แต่รายได้ค่าระวางขนส่ง และไปรษณียภัณฑ์ลดลง จากผลของการแข่งขันที่รุนแรง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ผันแปรตามปริมาณการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายบุคลากรในอัตราที่สูงถึงร้อยละ 16.3 มีสาเหตุหลักจากค่าล่วงเวลาของพนักงานและแรงงานภายนอกเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากการขาดแคลนแรงงานภายนอก
บริษัทฯ และบริษัทย่อย ขาดทุนก่อนอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีเงินได้ จำนวน 3,238 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อนมีกำไร 2,021 ล้านบาท เนื่องจากขาดทุนจากการดำเนินงาน ค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มขึ้น และต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นเนื่องจากหนี้สินเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในเครื่องบินใหม่
นอกจากนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อย ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 2,890 ล้านบาท ขาดทุนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปีก่อน 2,770 ล้านบาท เป็นผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อย ขาดทุนสุทธิ 6,182 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 1,857 ล้านบาท โดยเป็นขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 6,195 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 2.84 บาท เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนซึ่งมีกำไรต่อหุ้น 0.80 บาท
ผลการดำเนินงานเก้าเดือนแรกของปี 2556 (1 มกราคม-30 กันยายน 2556) บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 156,900 ล้านบาท ขาดทุนจากการดำเนินงาน (Operating Loss) 544 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาส 3 ของปีก่อนที่มีกำไร 5,576 ล้านบาท เป็นผลมาจากในปีนี้มีการขยายการผลิตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 8.5 แต่การเพิ่มขึ้นของรายได้ยังไม่สามารถเพิ่มได้ทันปริมาณการผลิต ในขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าปริมาณการผลิตเล็กน้อย นอกจากนี้ ยังมีผลจากการแข็งค่าเงินบาท ทำให้รายได้จากการขาย และให้บริการซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินตราต่างประเทศ เมื่อคิดเป็นเงินบาทลดลงมาก ในขณะที่ค่าใช้จ่าย เมื่อคิดเป็นเงินบาทลดลงในจำนวนน้อยกว่า
นอกจากนั้น จากการที่ในงวด 9 เดือน ปี 2556 บริษัทฯ บันทึกขาดทุนด้อยค่าเครื่องบินเป็นเงิน 3,592 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปีก่อนที่บันทึกขาดทุนด้อยค่าเครื่องบินเพียง 181 ล้านบาท เป็นผลทำให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยขาดทุนสุทธิ 6,313 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปีก่อนซึ่งมีกำไร 5,629 ล้านบาท โดยเป็นขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 6,351 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 2.91 บาท เปรียบเทียบกับปีก่อนซึ่งมีกำไรต่อหุ้น 2.49 บาท
ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 324,518 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2555 จำนวน 20,422 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.7 หนี้สินรวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อย เท่ากับ 262,957 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 จำนวน 28,679 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.2 และส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำนวน 61,561ล้านบาท ลดลงจากวันที่ 31 ธันวาคม 2555 จำนวน 8,257 ล้านบาท เป็นผลมาจากผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ขาดทุน นอกจากนั้น ในปีนี้บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผล จำนวน 1,226 ล้านบาท และมีผลกระทบจากการสูญเสียอำนาจควบคุมบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 721 ล้านบาท