xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ตรวจท่าเรือร้องดีเอสไอ สอบโกงค่าล่วงเวลา 3 พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผู้ตรวจการท่าเรือฯ ร้องดีเอสไอ ตรวจสอบทุจริตโกงเงินค่าล่วงเวลากว่า 3 พันล้านบาท ชี้เป็นองค์กรอาชญากรรมที่แยบยล และสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ เพราะเป็นการอาศัยช่องทางทางคดีความ

วันนี้ (9 ก.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายกัมปนาท อิ่มแสงจันทร์ ผู้ตรวจการท่า ฝ่ายบริหารงานสนับสนุนท่าเรือกรุงเทพ คลองเตย พร้อมกลุ่มพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีมีการทุจริตการเบิกจ่ายค่าตอบแทนล่วงเวลาแบบเหมาจ่ายแก่พนักงาน มูลค่าความเสียหายประมาณ 4 พันล้านบาท

สืบเนื่องจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยนั้นเดิมทีเป็น สังกัดกรมการขนส่ง แต่แยกออกมาเป็นรัฐวิสาหกิจก็มีการออกระเบียบเรื่องการจ่ายค่าล่วงเวลาประเภทเหมาจ่าย หลังจากนั้นก็มีการไปฟ้องคดีให้จ่ายตามระเบียบนั้น ซึ่งระเบียบที่ว่านั้นน่าจะไม่ถูกต้อง และตามกฎหมายในเรื่องเกี่ยวกับงานขนส่งนั้น กฎหมายไม่ได้กำหนดให้จ่ายค่าล่วงเวลา เพราะฉะนั้นเพื่อให้พนักงานของการท่าเรือไทยอยู่ได้นั้น จึงมีการจัดทำข้อตกลงจ่ายค่าล่วงเวลาแบบเหมาจ่าย แต่ต่อมากฎหมายมีการพัฒนาและมีผลบังคับใช้ล่าสุดก็คือ พ.ร.บ.แรงงาน ซึ่งได้เปลี่ยนระบบการจ่ายล่วงเวลาจากเหมาจ่ายเป็นแบบจ่ายรายชม.ซึ่งพนักงานที่ได้รับค่าล่วงเวลาเป็นแบบเหมาจ่ายก็ได้เห็นช่องทางของกฎหมายและมีการฟ้องร้องคดีกันไปมา กระทั่งนำเรื่องขึ้นสู่ศาล ซึ่งเมื่อเรื่องขึ้นสู่ศาลแล้ว กระบวนการพิพากษามีแนวโน้มว่าการต่อสู้คดีโดยไม่ได้ยึดถือตามข้อเท็จจริง และศาลมีคำพิพากษาให้ผู้ฟ้องเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งการท่าเรือฯจึงต้องรับภาระในการจ่ายค่าล่วงเวลาซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าในการฟ้องจำนวน 219 คน มูลค่าการฟ้องประมาณ 3,600 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมดอกเบี้ย

นายธาริต กล่าวว่า ตนรับเรื่องดังกล่าวและจะมอบหมายเรื่องนี้ให้ พ.อ.พินิจ ตั้งสกุล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ดำเนินการในเรื่องนี้ ทั้งนี้ ตนพบพิรุธในการต่อสู้คดี คือดูเหมือนว่าทางฝ่ายต่อสู้คดีของการท่าเรือฯรู้กันกับคนที่ฟ้องเพื่อให้แพ้คดี ซึ่งถือว่าเป็นการฮั้วกัน เพื่อให้ได้ผลของคำพิพากษาของศาลเอาเงินที่จะไปเป็นประโยชน์ของรัฐไปจ่ายพวกพ้องในวงเงินสูงถึง 4,000 ล้านบาท ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวเป็นองค์กรอาชญากรรมที่แยบยล และเป็นเรื่องที่ร้ายแรงกับประเทศชาติอย่างมาก เพราะเป็นการอาศัยช่องทางทางคดีความ ซึ่งคนที่จะทำอย่างนี้ได้นั้นต้องเป็นคนที่มีตำแหน่งหน้าที่อยู่ในการท่าเรือแห่งประเทศไทย ใช้หลักวิชาและเทคนิคชั้นสูง ซึ่งเป็นอาชญากรทางเศรษฐกิจที่ร้ายแรงมากและตรงกับภารกิจของดีเอสไอ
กำลังโหลดความคิดเห็น