การเมืองส่งซิก ชะลอสรรหา ผอ.การท่าเรือฯคนใหม่ หวั่นป่วนรอบสอง “อิทธิชัย” นั่งรักษาการ ผอ.กทท.ยาว อ้างบริหารงานฝ่ายบริหาร-พนักงานยังไปในทิศทางเดียวกัน คาดเริ่มสรรหาช่วงก .ย. ส่วนปัญหาพนักงานฟ้องร้องค่าโอที และส่วยท่าเรือ ยังไม่คืบหน้า
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า การสรรหาผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) คนใหม่แทน ร.ต.วิโรจน์ จงชาณสิทโธ อดีตผู้อำนวยการ กทท. ที่ยื่นใบลาออกไปตั้งแต่ วันที่ 18 กุมภาพันธ์นั้น ขณะนี้กระบวนการสรรหายังไม่เริ่มกระบวนการสรรหาใดๆ เนื่องจากฝ่ายนโยบายเห็นว่าการบริหารงานของ ร.อ.อิทธิชัย สุพรรณกุล รองผู้อำนวยการ สายบริหารทรัพยากรบุคคลและการเงิน กทท.ซึ่งคณะกรรมการ (บอร์ด) กทท.ที่มี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เป็นประธานได้มีมติแต่งตั้งให้ทำหน้าที่รักษาการผู้อำนวยการ กทท.มาตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์นั้นยังบริหารงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงคาดว่าให้รักษาการในตำแหน่งไปอีกระยะ ส่วนการสรรหาใหมาคาดว่าน่าจะเริ่มกระบวนการสรรหาในช่วงเดือนกันยายน 2556
ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่ทำให้ยังไม่เริ่มกระบวนการสรรหา ผอ.กทท.คนใหม่ นอกจาก ร.อ.อิทธิชัย สามารถทำหน้าที่ในฐานะรักษาการ ผอ.กทท.ได้ดีในระดับหนึ่งแล้ว การประสานงานระหว่างฝ่ายบริหารและพนักงานฝ่ายปฏิบัติงานยังไม่มีปัญหา ซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่างๆ ภายในองค์กรที่มีการเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การท่าเรืิอฯ ก่อนหน้านี้ลงได้ จึงเห็นว่าหากเริ่มกระบวนการสรรหาฯในขณะนี้อาจเป็นเวลาที่ไม่เหมาะสม จึงชะลอออกไประยะหนึ่งก่อน
สำหรับ ร.ต.วิโรจน์ จงชาณสิทโธ ได้ยื่นใบลาออกต่อบอร์ด กทท.มีผลเมื่อวันที่ 18 กมภาพันธุ์ 2556 ที่ผ่านมาเนื่องจากจากถูกสหภาพฯ กทท.ประท้วงหยุดทำงานล่วงโอที สืบเนื่องจากกรณีที่การที่พนักงานฟ้องร้องเรียกค่าล่วงเวลา (โอที) จาก กทท.ซึ่งเป็นความัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารภายใต้การนำของ ร.ต.วิโรจน์ และสหภาพ กทท.
ในขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการขนส่งสินค้า เช่น สมาคมขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก, สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยได้ออกมาระบุว่า ผู้ประกอบการต้องจ่ายส่วยในการใช้บริการท่าเรือ ตั้งแต่ผ่านทางเข้าเขตท่าเรือ ยกสินค้าขึ้นลงเรือ ค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นต้นทุนแฝง (ส่วย) ที่ผู้ประกอบการต้องจ่ายตู้ละ 300 บาท และมองว่า ปัญหาการจ่ายค่าล่วงเวลา (โอที)ควรมีการตรวจสอบเพราะมีการเบิกเงินเกินจากปฏิบัติงานจริง เช่นการให้บริการเครน ยกสินค้าหน้าท่า เป็นต้น อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคมได้สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบเรืองส่วยท่าเรือขึ้้นแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ เนื่องจากกระแสต่างๆ ลดลงหลังจาก ร.ต.วิโรจน์ลาออก