“แบงก์ทหารไทย” ลั่นพร้อมชดใช้ความเสียหายให้ลูกค้าที่โดนแฮกบัตรเอทีเอ็มรวม 12 ราย เผยบางรายจำเป็นต้องยึดบัตรเพื่อป้องกัน และแก้ไขในภายหลัง ด้านรอง ผกก.สน.พญาไท เผยมีผู้เสียหายแจ้งความเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 7 รายแล้ว พร้อมเรียกสอบผู้จัดการธนาคารขยายผลไล่ล่าคนร้าย
จากกรณีผู้บริหาร และพนักงานบริษัทฟาร์อีสดีดีบี โดนคนร้ายคัดลอกข้อมูลบัตรเครดิตจนเงินในบัญชีธนาคารสูญหายกว่า 400,000 บาท ที่เกิดเหตุเป็นตู้เอทีเอ็มของธนาคารทหารไทย สาขาพญาไท ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 อาคารซีพีทาวเวอร์ 3 ถ.ศรีอยุธยา นั้น วานนี้ (13 พ.ย.) ธนาคารทหารไทย ชี้แจงว่า ธนาคารฯ ได้ตรวจสอบเพื่อวิเคราะห์ระบบในภาพรวมตามมาตรการป้องกันความเสียหายล่วงหน้า และได้พบว่า มีบัตรเอทีเอ็มของลูกค้าจำนวนหนึ่งที่ต้องสงสัยว่าอาจถูกลักลอบคัดลอกข้อมูล แต่ยังไม่ได้เกิดความเสียหายต่อเงินในบัญชี ธนาคารจึงได้ติดต่อลูกค้าในกลุ่มนี้เพื่อขอระงับการใช้บัตรชั่วคราว โดยให้ลูกค้ารีบติดต่อสาขาของธนาคารเพื่อทำการเปลี่ยนบัตรเพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดความเสียหาย
ส่วนลูกค้าจำนวน 12 ราย ที่ได้รับความเสียหายจากการลักลอบคัดลอกข้อมูลบัตรโดยคนร้าย ธนาคารจึงจะชดเชยความเสียหายให้โดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกัน ธนาคารยังดำเนินมาตรการต่อเนื่องในการตรวจสอบ และเฝ้าระวังความปลอดภัยของเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารเพื่อให้มั่นใจว่า มีความปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
ธนาคารขอเรียนย้ำเกี่ยวกับข้อพึงปฏิบัติสำหรับผู้ถือบัตรบัตรเอทีเอ็มอย่างปลอดภัยว่า ควรระมัดระวังไม่ให้ผู้อื่นทราบรหัสบัตร โดยหมั่นเปลี่ยนรหัสบัตรเป็นประจำ ใช้มือ หรือวัสดุปิดบังเพื่อไม่ให้ผู้อื่นมองเห็นขณะกดรหัสบัตร สังเกตเครื่องเอทีเอ็ม และบริเวณที่เครื่องเอทีเอ็มติดตั้งอยู่ว่ามีวัสดุอุปกรณ์แปลกปลอมติดอยู่หรือไม่ก่อนที่จะใช้บัตรที่เครื่องดังกล่าว ตลอดจนหมั่นตรวจสอบความเคลื่อนไหวของเงินในบัญชีเป็นประจำ และควรเปิดใช้บริการแจ้งความเคลื่อนไหวของบัญชีผ่านเอสเอ็มเอส หากลูกค้ามีข้อสงสัยประการใด โปรดติดต่อ Call Center 1558
ด้านความคืบหน้าคดี พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ รอง ผกก.สส.สน.พญาไท เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่เพิ่มอีก 1 ราย หลังจากวันก่อนมีผู้เสียหาย 6 ราย เข้าแจ้งความ รวมผู้เสียหายทั้งหมดขณะนี้จำนวน 7 ราย พนักงานสอบสวนได้เรียกผู้จัดการธนาคารดังกล่าว เข้าพบ เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง และต้องมีการตรวจสอบโดยละเอียดและชัดเจนอีกครั้ง