ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนร้ายงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ บริเวณทางเข้าท่าเรือโบ๊ท ลากูน จ.ภูเก็ต ก่อนรุ่งสางวันนี้ ใช้เครื่องเชื่อมตัดเหล็กตัดแผ่นเหล็กด้านหลังตู้เอทีเอ็ม กวาดเงินสดไปกว่า 1.6 ล้านบาท หลบหนีลอยนวล เจ้าหน้าที่คาดคนร้ายน่าจะมีมากกว่า 3 คน และพฤติกรรมเหมือนการงัดตู้เอทีเอ็มที่หน้าท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (7 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพนักงานขนเงินของบริษัท กรุงเทพเซอร์เว็กซ์ จำกัด ว่า เกิดเหตุคนร้ายเข้าไปงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ บริเวณทางเข้าโบ๊ท ลากูน ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางมาตรวจสอบด้วย หลังจากได้รับแจ้ง ร.ต.อ.ราชันย์ พันธ์ไวย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานไปยังผู้บังคับบัญชา พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รองผู้บังการตำรวจภูธรจังวัดภูเก็ต พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสวบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณปากทางเข้าโบ๊ท ลากูน ริมถนนเทพกระษัตรี ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นท่าจอดเรือยอชต์ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต ติดกันเป็นปั๊มน้ำมัน ปตท.เกาะแก้ว ตู้เอทีเอ็มดังกล่าวตั้งอยู่ด้านขวาของปากทางเข้า พบตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 2 ตู้ ด้านข้างของตู้เอทีเอ็มตู้แรกที่ประตูมีร่องรอยการงัดแงะเพื่อคนร้ายเข้าภายในห้องเล็กๆ ที่เจ้าหน้าที่ใช้ในการนำกล่องเงินไปใส่ในตู้เอทีเอ็ม ประตูอยู่ในสภาพที่ไม่ได้รับความเสียหาย และภายในห้องดังกล่าวคนร้ายได้ใช้เครื่องเชื่อมตัดเหล็กตัดฝาตู้นิรภัยของตู้เอทีเอ็มจนขาด เพราะที่เกิดเหตุพบแผ่นเหล็กยาวประมาณ 1 ฟุต และยังพบเศษเหล็กอีกประมาณ 2-3 ชิ้นที่ตกหล่นอยู่ด้านหลังตู้
โดยคนร้ายได้ขโมยกล่องใส่ธนบัตรของตู้เอทีเอ็มดังกล่าว จำนวน 4 กล่อง แบ่งออกเป็น ธนบัตรกล่องละ 100 บาท จำนวน 1 กล่อง ธนบัตรกล่องละ 500 บาท จำนวน 1 กล่อง ธนบัตรกล่องละ 1,000 บาท จำนวน 2 กล่อง ซึ่งคนร้ายได้เงินไปประมาณ 1,659,100 บาท และมีธนบัตรที่เหลือติดอยู่ในตู้ประมาณ 9,700 บาท โดยธนบัตรมีรอยไฟไหม้เล็กน้อย ส่วนธนบัตรที่เหลืออีกจำนวนหนึ่งถูกไฟไหม้เป็นพลาสติกนับจำนวนไม่ได้
จากการสอบถาม นายวีระ ทองเกลา อายุ 29 ปี พนักงานขนเงินของบริษัท กรุงเทพเซอร์เว็กซ์ จำกัด เล่าว่า ตนได้เดินทางมาจากบริษัทเพื่อนำเงินมาใส่ในตู้เอทีเอ็มดังกล่าว เมื่อเดินทางมาถึงพบประตูด้านข้างตู้เอทีเอ็มมีร่องรอยการงัดแงะ จึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งตนได้ตรวจสอบไปทางศูนย์หาดใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์ พบว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันนี้ (7 พ.ย.) ที่ตู้เอทีเอ็มดังกล่าวมีไฟดับ และมียอดเงินที่เหลืออยู่ภายในตู้แรกประมาณ 1,659,100 บาท โดยตู้เอทีเอ็มดังกล่าวได้นำเงินมาใส่เมื่อวันที่ 4 พ.ย.56 ที่ผ่านมา และครบกำหนด 3 วัน และในวันนี้ (7 พ.ย.) ต้องนำเงินมาใส่อีก เมื่อมาถึงก็พบเหตุการณ์ดังกล่าว
พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รองผู้บังการตำรวจภูธรจังวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับคดีนี้คนร้ายน่าจะมี 3 คนขึ้นไป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีรูปแบบคล้ายคลึงกับการงัดแงะตู้เอทีเอ็มของธนาคารทหารไทย ปากทางเข้าท่าเรือน้ำลึก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเดือนพฤษภาคม 56 ที่ผ่านมา ซึ่งจากข้อมูลที่ได้จากธนาคารคนร้ายน่าจะเข้ามาในช่วงเวลาตั้งแต่ 03.00-05.00 น.ของวันนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับข้องมูลแจ้งจากตู้ครั้งสุดท้ายในเวลา 02.00 น. ขณะนั้นยอดเงินล่าสุดอยู่ที่ 1,659,000 บาท ก่อนที่ค้นร้ายจะเข้ามาตัดกุญแจประตู และเข้าไปตัดระบบไฟฟ้าของตู้เอทีเอ็ม ก่อนจะใช้เครื่องเชื่อมตัดโลหะหลังตูเอทีเอ็มซึ่งมีความหนาออก และนำเงินออกไปเกือบทั้งหมด มีบางส่วนที่เหลือนับได้ 9,700 บาท และบางส่วนถูกความร้อนของเครื่องเชื่อมทำให้เสียหายอีกจำนวนหนึ่ง ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับตัวคนร้าย ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมข้อมูลต่างๆ ทั้งค้นหาภาพจากกล้องวงจรปิด ข้อมูลหลักฐานในที่เกิดเหตุ และสอบสวนผู้เกี่ยวข้องก่อน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงคืนที่ผ่านมาคนร้ายได้ก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารทหารไทย สาขาถลาง เช่นกัน แต่ทำไม่สำเร็จ ไม่สามารถงัดตู้เอทีเอ็ม และกวาดเงินไปได้
