xs
xsm
sm
md
lg

“โต้ง” เดินหน้ากู้ดอลลาร์ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“โต้ง” ลั่นออกพันธบัตรระดมทุนเงินสกุลดอลลาร์ 15,000 ล้าน ทยอยออกปีละ 1.5 พันล้านดอลลาร์ ต่อเนื่อง 10 ปี ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แบงก์ชาติเผยเดือน ก.ย.ไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 534 ล้านเหรียญสหรัฐ เหตุต่างชาติส่งเงินกลับ คาดทั้งปี 56 ขาดดุล 6,800 ล้านเหรียญ ส่วนเศรษฐกิจไทยค่อยๆ ดีขึ้น แต่อยู่ในลักษณะท้องช้าง

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ยอมรับว่ารัฐบาลเตรียมอออกพันธบัตรรองรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และนำเข้าเครื่องจักรและเทคโนโลยีประเทศไทย ถือเป็นโอกาสดีในการวางโครงสร้างตลาดบอนด์ของประเทศไทยในต่างประเทศ โดยอาจจะไม่ต้องออกเต็มจำนวน 15-20% ของเงินกู้ คาดไว้ประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือปีละ 1,000-1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 10 ปี

“น่าจะทยอยออกบอนด์ต่อเนื่อง เป็นเรื่องที่ไม่เสียหายเมื่อเทียบกับขนาดของจีดีพีประเทศ มีความคุ้มค่าที่จะการบริหารความเสี่ยง และเป็นโอกาสที่จะระดมทุนเพิ่มเติมได้ในอนาคตเพราะมีข้อมูลอยู่ในตลาดพันธบัตรนานาชาติอยู่แล้ว” นายกิตติรัตน์กล่าวและว่า ส่วนในปีที่ 11 ก็จะมีการออกพันธบัตรเพื่อรีไฟแนนซ์ดอกเบี้ยในปีที่ 1 ก็จะทำให้พันธบัตรรัฐบาลไทยมีข้อมูลอยู่ในตลาดและได้รับความน่าเชื่อถือ และราคาบอนด์ที่สะท้อนในตลาดก็จะเป็นข้อมูลให้แก่นักลงทุน และรัฐบาลที่ช่วยสะท้อนภาวะเศรษฐกิจของไทยในอนาคตด้วย ส่วนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเรื่องการบริหารจัดการน้ำที่มีความล่าช้า มั่นใจว่าภายในปี 2557 จะสามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้

ด้านนายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ข้อมูลดุลบัญชีเดินสะพัดล่าสุดในเดือน ก.ย.ไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 534 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับเดือนก่อนที่เกินดุล 1,285 ล้านเหรียญ เป็นผลมาจากการขาดดุลบริการ รายได้และเงินโอนเป็นสำคัญ ซึ่งมีการส่งกลับกำไร และเงินปันผลไปต่างประเทศ 3,096 ล้านเหรียญ โดยเฉพาะบริษัทเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยทั้งปี 56 คาดว่าไทยจะขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 6,800 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ดี แนวโน้มช่วงปลายปีนี้การส่งกลับกำไรและเงินปันผลของต่าชาติจะน้อยลง และการส่งออกจะปรับตัวดีขึ้น

ส่วนเศรษฐกิจไทยโดยรวมปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ แต่ยังไม่มีอะไรผิดปกติ จึงยังคงอยู่ในลักษณะท้องช้างอยู่ โดยหากพิจารณาจากข้อมูลเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจล่าสุดในเดือน ก.ย.ของปีนี้ ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะการบริโภค และการลงทุนของภาคเอกชนการผลิตยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน ส่วนการส่งออกปรับตัวดีขึ้นในบางหมวด ขณะที่ช่วงไตรมาส 3 ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

“หากวัดจากเครื่องชี้พบว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 เทียบกับไตรมาส 2 ปรับตัวดีขึ้น โดยตัวเลขเศรษฐกิจยังคงเป็นบวก ทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 เทียบกับไตรมาส 2 ของปีนี้ และเมื่อเทียบเดือน ก.ย.ปีนี้เทียบกับเดือน ก.ย.ปีก่อน และมองว่าไตรมาส 4 เศรษฐกิจไทยยังคงเป็นบวกต่อเนื่อง”

นายเมธี เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เลื่อนการลดวงเงินอัดฉีดสภาพคล่อง(คิวอี 3) ส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าไทย 1,887 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือน ก.ย จากเดือนก่อนหน้าเป็นเงินทุนไหลเข้า 4,542 ล้านเหรียญ โดยเดือน ก.ย.เป็นเงินทุนไหลเข้าผ่านการลงทุนโดยตรงของนักลงทุนไทย (ทีดีไอ) และตลาดตราสารหนี้ แต่ก็ไม่ได้รุนแรงมากนัก และในช่วงนี้เงินทุนไหลเข้าไทยไม่ได้รุนแรง สะท้อนได้จากเงินบาทค่อนข้างนิ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น