xs
xsm
sm
md
lg

เผยค่าพี/อี “หุ้นไทย” อยู่ที่ 16 เท่า น่าสนใจกว่า “อินโดฯ-ฟิลิปปินส์” ซึ่งค่าพี/อี อยู่ที่ 18 เท่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นภาคบ่ายแกว่งในแดนลบ ไม่ขานรับข่าว “ส่งออก” เดือน ส.ค. เริ่มฟื้นตัว “กูรู” มั่นใจทิศทางตลาดหุ้นไตรมาส 4 ยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ ชี้ค่าพี/อี อยู่ที่ 16 เท่า น่าสนใจกว่า “อินโดฯ-ฟิลิปปินส์” ซึ่งค่าพี/อี อยู่ที่ 18 เท่า

ภาวะตลาดหุ้นภาคบ่าย (26 ก.ย.) ดัชนียังคงแกว่งตัวผันผวน โดยปรับลงไปลึกกว่า 7 จุด หลังกระทรวงพาณิช ย์ประกาศตัวเลขการส่งออกเดือนสิงหาคม 2556 เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว โดยขยายตัวได้ 3.92% โดยเมื่อเวลา 15.18 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,431.78 จุด ลดลง 5.12 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.36% มูลค่าการซื้อขาย 25,972 ล้านบาท

นายกำพล ปัญญาโกเมศ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ นิด้า กล่าวถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทย หากเปรียบเทียบอัตราส่วนกำไรต่อหุ้น (P/E) กับตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP (ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์) จะพบว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีราคาไม่แพง และยังมีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นได้ เนื่องจาก P/E ของไทยอยู่ที่ 16.31 เท่า ต่ำกว่าอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่อยู่ในระดับ 18.29 และ 18.88 ตามลำดับ และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานที่อยู่ในระดับ 18.01 โดยจากการทำแบบจำลองแสดงค่าเฉลี่ยดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ สิ้นปี 2556 จะอยู่ที่ระดับ 1,513 จุด

ดังนั้น จึงมีโอกาสที่หุ้นไทยจะปรับตัวสูงขึ้นได้ และจากการทำงานร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันซ่า ถึงรูปแบบการลงทุนในไตรมาส 4 พบว่า นักลงทุนควรกระจายพอร์ตการลงทุน เพื่อบริหารความเสี่ยง โดยแบ่งสัดส่วนลงทุนในตลาดหุ้น 27.74% พันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น 30.66% หุ้นกู้ 27.67% ส่วนทองลงทุน 5.88% และคอมมูดิตี 8.64%

สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของไทยในขณะนี้ มีทั้งปัจจัยภายใน และภายนอกประเทศ ปัจจัยภายใน ได้แก่ ความชัดเจนโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท โครงการบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท ที่ต้องดูว่ารัฐบาลจะสามารถผลักดันให้เกิดการลงทุนได้เมื่อใด

นอกจากนี้ ยังรวมถึงประเด็นการเมืองที่นักลงทุนต้องติดตามการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วาระ 2-3 ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 และการตัดสินประเด็นเขาพระวิหารของศาลโลก และต้องจับตาปัจจัยต่างประเทศ ทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ ถึงความชัดเจนในการดำเนินนโยบาย QE รวมถึงตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งมีผลต่อบรรยากาศการลงทุน และความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.20 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,427.94 จุด ลดลง 8.96 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.62% มูลค่าการซื้อขาย 32,262.86 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น