บลจ.ฟินันซ่าแนะนักลงทุนหนีความผันผวน เลือกลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น 6 เดือน ให้ผลตอบแทน 3.05% ต่อปี ด้าน บลจ.กสิกรไทยเสิร์ฟบอนด์สั้นด้วยเช่นกัน เสนอทางเลือก 3 เดือน-6 เดือน พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีสูงสุด 3.10% ต่อปี เปิดขายหน่วยลงทุนแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 9 กันยายน 2556
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟินันซ่า จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้ Sentiment การลงทุนไม่ดี ทั้งเรื่องลด QE เรื่องซีเรีย และเรื่องเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ แต่เราเห็นว่าขณะนี้สัญญาณบวกเริ่มมาบ้าง เช่น ตัวเลขเศรษฐกิจ G3 (สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และยุโรป) ในไตรมาสที่ 2 ก็เป็นบวกหมด แม้ว่าเงินจะไหลออกบ้าง หุ้นปรับลดลงไปมาก แต่เงินบาทอ่อนค่าช่วยกระตุ้นการส่งออก ดังนั้นเชื่อว่าปลายปีจะเริ่มดีขึ้น แต่หากนักลงทุนยังไม่มั่นใจกับภาวะตลาดก็ลงตราสารหนี้ไปก่อนได้
บลจ.ฟินันซ่าจึงออกกองทุนตราสารหนี้ 6 เดือนเป็นทางเลือกแก่ลูกค้าที่กังวลต่อการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง ด้วยการออกกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 6 เดือน 1 (FAM FIPR6M1) โดยมีผลตอบแทนประมาณ 3.05% ต่อปี เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 2-9 ก.ย. 56 โดยสินทรัพย์ในกองทุนบางส่วนจะลงทุนเป็นเงินฝากธนาคารต่างประเทศ และในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่ลงทุนได้ขึ้นไป
ทางด้านนายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในวันที่ 3-9 กันยายน 2556 บลจ.กสิกรไทยจะเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการต่อเนื่องอีก 2 กองทุน ทั้งอายุ 3 เดือน และ 6 เดือน พร้อมนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ดีซี (KFI3MDC) โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.00% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอเอช (KFF6MAH) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.10% ต่อปี โดยผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
นอกจากนี้ เพื่อตอบรับความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมากและต้องการลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก ในช่วงเวลาเดียวกัน บลจ.กสิกรไทยจะเปิดขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน ซีดับบลิว (KPPTF3MCW) โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และบางส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะให้โอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ 2.40% ต่อปี