สบน.เผยหลังสหรัฐฯ บรรลุแผนขยายเพดานหนี้ทำให้นักลงทุนคลายกังวล เชื่อไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดพันธบัตร เนื่องจากที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้ามาลงทุนในตลาดพันธบัตรไทยอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มีข่าวการชะลอลดมาตรการคิวอี มั่นใจเป็นเม็ดเงินลงทุนในระยะยาว
น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า ความสำเร็จในการยื่นระยะเวลาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ทำให้ตลาดการเงินคลายความกังวล และมีความเชื่อมั่นที่ดีขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเข้ามาลงทุนในตลาดพันธบัตรของไทยมากนัก เนื่องจากที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้ามาลงทุนในตลาดพันธบัตรไทยอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มีข่าวการชะลอลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือคิวอี และส่วนใหญ่เป็นการเข้ามาลงทุนระยะยาวมากกว่าระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังมีความเชื่อมั่นที่ค่อนข้างดีต่อเศรษฐกิจไทย
ผอ.สบน. กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนการลงทุนในพันธบัตรไทยร้อยละ 17 ลดลงจากช่วงสูงที่สุดร้อยละ 19 เมื่อกลางปีที่ผ่านมา โดยการลดลงส่วนใหญ่เป็นการขายพันธบัตรระยะสั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติยังคงมีความเชื่อมั่น และเข้ามาลงทุนในตลาดพันธบัตรไทย สำหรับอัตราดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรไทยอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ เห็นได้จากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 50 ปี อยู่ที่ร้อยละ 4.7 ซึ่งเป็นระดับที่ไม่สูงมาก ซึ่งเอื้อต่อการกู้เงินรัฐบาลเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง มีแผนที่จะกู้เงินจากตลาดต่างประเทศ หรือการออกดอลลาร์บอนด์ เช่นเดิม คือ วงเงินปีละ 1-1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เป็นเวลา 10 ปี แต่ยังรอจังหวะที่เหมาะสมโดยเฉพาะ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ผ่านกระบวนการพิจาณาให้แล้วเสร็จก่อน