ผู้จัดการตลาดหุ้นไทย แนะนักลงทุนจับตาผลสรุปการประชุมเพดานหนี้สหรัฐฯ อาจกระทบตลาดหุ้นทั่วโลก แนะลงทุนด้วยความระมัดระวัง ปรับพอร์ตการลงทุนเลี่ยงความเสี่ยง
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า ตลาดหุ้นในช่วงนี้จะยังคงมีการปรับตัวผันผวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุหลักมาจากความกังวลในเรื่องปัญหาการปรับเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ที่ยังคงมีความไม่ชัดเจนทั้งจาก 2 พรรคการเมืองหลัก โดยส่งผลกระทบต่อจิตวิทยา และบรรยากาศการลงทุนโดยรวม ดังนั้น นักลงทุนควรระมัดระวังในการลงทุนทั้งตราสารหนี้ ตราสารทุน และทองคำ เตรียมปรับพอร์ตการลงทุนเลี่ยงความเสี่ยง ตลอดจนถึงเฝ้าติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
“ประเด็นเรื่องการปรับเพดานหนี้สหรัฐฯ อาจต้องรอดูผลสรุปการประชุมในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ซึ่งหากยังตกลงหาข้อยุติกันไม่ได้ อาจจะกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ เพราะประเด็นเรื่องหนี้สหรัฐฯ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจโลกในระยะยาว และตลาดที่กำลังเกิดใหม่ ในส่วนของนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ก็จำเป็นที่จะต้องติดตามรอดูว่าจะมีความชัดเจนเมื่อไหร่ ซึ่งอาจเลื่อนไปจนถึงการประชุมรอบเดือนธันวาคม เมื่อถึงเวลานั้นคาดว่าตลาดหุ้นจะมีความผันผวนน้อยลง แต่อย่างไรก็ดี เชื่อว่าต้องมีการลด และยกเลิก QE อยู่แล้วในท้ายที่สุด ซึ่งนักลงทุนในขณะนี้ควรลงทุนด้วยความระมัดระวัง และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เน้นลงทุนหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดีเป็นหลัก ซึ่งในระยะยาวตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจอยู่ในระดับสูง เนื่องจากมีความหลากหลายของการลงทุน และเป็นประเทศศูนย์กลางเศรษฐกิจอาเซียน”
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ 1,468.58 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +8.74 หรือ +0.60% โดยมีมูลค่าการซื้อขายสุทธิอยู่ที่ 22,680.41 ล้านบาท
โดยหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกคือ
KTB ปิดที่ 20.80 บาท เพิ่มขึ้น +0.30 หรือ +1.46% มูลค่าการซื้อขาย 1,301,333 ล้านบาท
TRUE ปิดที่ 9.30 บาท เพิ่มขึ้น +0.20 หรือ +2.20% มูลค่าการซื้อขาย 1,159,916 ล้านบาท
TMB ปิดที่ 2.90 บาท ลดลง -0.06 หรือ -2.03% มูลค่าการซื้อขาย 1,020,306 ล้านบาท
CK ปิดที่ 23.10 บาท เพิ่มขึ้น +0.70 หรือ +3.12% มูลค่าการซื้อขาย 952,430 ล้านบาท
JAS ปิดที่ 9.60 บาท เพิ่มขึ้น +0.15 หรือ +1.59% มูลค่าการซื้อขาย 934,593 ล้านบาท