“ศุภวุฒิ” หนุนโครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาท ลั่นเป็นสิ่งที่ดีรัฐต้องเร่งดำเนินการ เพราะจะสามารถช่วยลดต้นทุนภาคการขนส่งไทย โดยเฉพาะการเดินทางของประชาชน โครงการรถไฟรางคู่ และโครงการรถไฟความเร็วสูง ส่วนความกังวลหนี้สาธารณะพุ่งสูงรัฐต้องเร่งผลักดันจีดีพีให้เติบโตเกิน 5% ไม่ใช่แค่ 3% ส่วนภาวะหุ้นภาคบ่ายดัชนีไหลลงติดลบ 14 จุด
นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ภัทร เปิดเผยว่า โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ที่รัฐบาลกำลังผลักดันให้ผ่านการพิจารณาของรัฐสภา นั้น ตามหลักการแล้วเป็นสิ่งที่ดีที่ต้องเร่งดำเนินการ เพราะจะสามารถลดต้นทุนการผลิตของภาคเอกชนได้เป็นอย่างมาก จากปัจจุบันที่ภาคการขนส่งของไทยใช้การขนส่งทางถนนเป็นหลัก ทำให้ต้นทุนแพง และต้องนำเข้าน้ำมันในปริมาณมาก
ดังนั้น การพัฒนาระบบราง ทั้งรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร เพื่อลดต้นทุนการเดินทางของประชาชน โครงการรถไฟรางคู่ และโครงการรถไฟความเร็วสูงจะช่วยลดต้นทุนด้านขนส่งได้มาก และช่วยให้ให้ไทยสามารถเชื่อมโยงด้านการค้ากับต่างประเทศได้มากขึ้น เพราะโครงการรถไฟความเร็วสูงจะมีขนาดรางรถไฟ 1.4 เมตร มาตรฐานเดียวกันกับต่างประเทศ จึงถือว่าคุ้มค่าในการดำเนินการ ทั้งนี้ หากไม่มีโครงการเหล่านี้อาจทำให้การแข่งขันของไทยไม่เต็มประสิทธิภาพ และแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ลำบากเพราะมีต้นทุนแพง
ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับหนี้สาธารณะที่จะพุ่งสูงขึ้นจากการดำเนินโครงการขนาดใหญ่นั้น นายศุภวุฒิ เชื่อว่า หากรัฐบาลสามารถผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เฉลี่ยร้อยละ 5 หลังจากนี้ไป ก็จะส่งผลให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีปรับตัวลดลงตามไปด้วย แต่หากจีดีพีขยายตัวได้เพียงร้อยละ 3 ก็ถือว่าน่าเป็นห่วงผลกระทบที่จะมีต่อหนี้สาธารณะในอนาคตได้
ด้านภาวะตลาดหุ้นภาคบ่าย หลังเปิดตลาดดัชนีไหลดิ่งลงต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 14.39 น. ดัชนีปรับลงไปที่ 1,475.06 จุด ลดลง 14.00 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.94% มูลค่าการซื้อขาย 22,998.91 ล้านบาท
