หุ้นไทยเดินหน้าปรับลงต่อเนื่อง ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าลบอีก 25.39 จุด คาดต่างชาติเทขายต่อเนื่อง นักวิเคราะห์ชี้หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ดัชนีตลาดมีโอกาสดิ่งลงไปถึง 1,200 จุด พร้อมชี้ 3 ปัจจัยเสี่ยงการเมืองเดือด เริ่มมีผลกดดันตลาด
ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (22 ส.ค.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,329.75 จุด ลดลง 25.39 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.87% มูลค่าการซื้อขาย 27,494.88 ล้านบาท คาดต่างชาติยังเทขายต่อเนื่อง ขณะที่การเมืองในประเทศเริ่มเข้ามาผสมโรงกดดัน
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ยอมรับว่า ดัชนียังคงปรับลงต่อเนื่อง หลังจากไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,370 จุดได้ ทำให้แนวโน้มของดัชนี ยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับที่ 1,338 จุด อย่างไรก็ตาม มองว่าเป็นจังหวะสำหรับการทยอยซื้อหุ้น ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสปรับตัวลดลงไปถึงระดับ 1,300 หรือ 1,200 จุด
ด้านนักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าร่วงลงกว่า 25 จุด เป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวลดลง หลังจากดัชนีหุ้นดาวโจนส์ที่ลดลงไป 105 จุด ตอบรับความกังวลต่อการปรับลดมาตการผ่อนคลายทางการเงินรอบที่ 3 (QE) ของสหรัฐฯ และกังวลแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ และเงินทุนไหลออก ทำให้เงินบาทอ่อนค่าหลุดระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์
ขณะที่ บล.บัวหลวง ระบุว่า ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นในตอนนี้ ได้แก่ รายงานการประชุมเฟด เดือน ก.ค. ที่เสียงสมาชิกส่วนใหญ่สนับสนุนให้มีการชะลอมาตรการ QE รวมถึงความเสี่ยงการเมืองในประเทศ ซึ่งมีอยู่ 3 เรื่องใหญ่ได้แก่ 1.) กลุ่ม 40 ส.ว. เตรียมฟ้องศาล รธน. หลังสภาผ่านร่างแก้รัฐธรรมนูญ (รธน.) วานนี้ 2.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คาดเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ไปเป็นช่วงต้นเดือน ก.ย. และ 3.) ความวิตกการเคลื่อนไหวชุมนุมต่อต้านรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กับกลุ่มพันธมิตรฯ