“แคลิฟอร์เนีย ว้าว” แถลงโต้ “ปปง.” ยันเจ๊งเพราะการเมือง-น้ำท่วม “อีริค” ลั่นไม่เคยฉ้อโกง-ขนเงินหนีออกนอก

“แคลิฟอร์เนีย ว้าว” ออกแถลงการณ์โต้ข้อกล่าวหา ปปง. กล่าวโทษ “อีริค เลอวีน” ฉ้อโกงลูกค้า แถมขนเงินหนีออกนอกประเทศ เจ้าตัวครวญธุรกิจมีปัญหาขาดทุนเพราะได้รับผลกระทบจากการเมือง และน้ำท่วม

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (21 ส.ค.) บริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อกล่าวหาที่มีต่อ นายอีริค เลอวีน บริษัทฯ และกรรมการบริหาร โดยมีข้อความระบุว่า ขณะนี้ได้มีการยื่นเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ต่อ ปปง. แล้ว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์หลังถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงโอนเงินของบริษัทไปยังต่างประเทศ

เอกสารที่ยื่นต่อ ปปง. ดังกล่าว เป็นหลักฐานแสดงรายการธุรกรรมทางการเงินของบริษัท พร้อมด้วยหนังสือปฏิเสธการกระทำความผิดใดๆ ก็ตามโดยสิ้นเชิง โดย บมจ.แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ หรือกรรมการบริหารคนใดของบริษัท บริษัทได้ยื่นเอกสารด้วยความสมัครใจ โดยยังไม่มีการเรียกร้องใดๆ จาก ปปง. นอกจากนี้ หนังสือดังกล่าวยังเสนอให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ต่อ ปปง. ในการเข้าถึง และสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบัญชีธนาคารและกิจกรรมการดำเนินธุรกิจต่างๆ ทั้งหมดของบริษัทในทันทีที่ร้องขอ

นายอีริค กล่าวว่า บมจ.แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ ตัวเอง และกรรมการบริหาร ดำเนินธุรกิจด้วยความสุจริต โปร่งใส และไม่เคยมีการถ่ายโอนเงินแม้แต่บาทเดียวออกจากบริษัทอย่างไม่เหมาะสม หรือขัดต่อกฎหมาย และในฐานะบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังถูกควบคุมโดยหน่วยงานอิสระของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจากการตรวจสอบที่เข้มงวดที่ผ่านมาของหน่วยงานอิสระของรัฐบาลดังกล่าวทั้งหมด ไม่เคยมีการดำเนินคดีใดๆ ต่อบริษัท และกรรมการทุกคน

“มีการกล่าวหาว่าในช่วงปี 2552-2554 แคลิฟอร์เนีย ว้าว ได้ถ่ายโอนเงิน จำนวน 364 ล้านบาท 495 ล้านบาท และ 416 ล้านบาท ออกจากประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งถ่ายโอนเงินก้อนใหญ่ออกไปอีกหลายครั้งในช่วงระหว่างปีอื่นๆ ซึ่งการโอนเงินจำนวนมากขนาดนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้เลย เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวเกือบจะเท่ากับครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดของแคลิฟอร์เนีย ว้าว ในปีดังกล่าวแล้ว ซึ่งการทำธุรกรรมทางการเงินก้อนใหญ่ขนาดนี้ หากมีการดำเนินการจริงต่อให้ตรวจสอบบัญชีแบบลวกๆ ที่สุด ก็ต้องตรวจพบได้โดยง่าย” นายอีริคกล่าว

นายอีริค กล่าวว่า ในช่วงปี 2545-2549 บริษัทได้รับการตรวจสอบบัญชีโดย ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ และในช่วงปี 2550-2554 บริษัทได้รับการตรวจสอบบัญชีโดย ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส ซึ่งผู้ตรวจสอบบัญชีทั้งสองเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในการตรวจสอบบัญชีระดับโลกที่บริษัทใหญ่ๆ ระดับโลกใช้บริการอยู่ ซึ่งบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีทั้ง 2 บริษัทยืนยันความถูกต้องของการตรวจสอบบัญชี นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการตรวจสอบบัญชีอีกสี่ครั้งในแต่ละปี โดยผู้ตรวจสอบอิสระ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติในธุรกรรมการเงินที่ใหญ่ระดับนี้

นายอีริค กล่าวอีกว่า สิ่งที่เอกสารหลักฐานระบุอย่างชัดเจนก็คือ แทนที่จะเอาเงินออกจากบริษัท จริงๆ แล้ว เป็นการนำเงินเข้าบริษัทเป็นเงินจำนวนเกือบ 65 ล้านบาท ที่โอนมาจากบริษัทที่อยู่ในต่างประเทศ และผู้ร่วมงาน โดยเงินก้อนใหญ่ที่โอนเข้ามาล่าสุดเมื่อไม่นานนี้ คือ เมื่อประมาณปี 2554 โดยยืนยันว่าจริงจังกับธุรกิจฟิตเนสในประเทศไทย ซึ่งธุรกิจนี้จะสามารถอยู่รอดได้ ถ้าการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนั้นไม่ถูกขัดขวางด้วยการกระทำที่ผิดกฎหมายจากเจ้าของพื้นที่ที่ 6 คลับแคลิฟอร์เนีย ว้าวตั้งอยู่

“ธุรกิจของแคลิฟอร์เนีย ว้าว ได้รับผลกระทบเสียหายอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมือง และน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 อย่างไรก็ตาม ผมยังมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถฟื้นตัวจากผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และสามารถให้บริการแก่สมาชิกต่อไปได้ ถ้าเพียงแต่เจ้าของพื้นที่ ที่ 6 คลับแคลิฟอร์เนีย ว้าว ตั้งอยู่ ไม่เข้ามาขัดขวางและปิดกั้น ทำให้สมาชิกไม่สามารถเข้าไปใช้บริการเครื่องออกกำลังกาย หรือตัดน้ำ ตัดไฟ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อคำสั่งศาล และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจนเป็นระยะเวลาถึงเกือบ 2 เดือน ส่งผลให้บริษัทต้องสูญเสียรายได้มากกว่า 200 ล้านบาท” นายอีริคกล่าว

นายอีริค กล่าวว่า คำแถลงการณ์ข้างต้นเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงที่มีหลักฐานชัดเจน รวมทั้งมีคำสั่งศาลที่กล่าวอ้างถึง คำแถลงการณ์นี้จึงเป็นการแสดงจุดยืนของบริษัท และกรรมการ รวมทั้งตัวเองอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เกียรติแก่สมาชิก รวมถึงผู้ถือหุ้นและกรรมการบริหารของบริษัทที่อาจจะได้รับผลกระทบจากข้อกล่าวหาเหล่านี้ ซึ่งพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ที่สุดแก่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทันทีที่มีการร้องขอ และมั่นใจว่าข้อเท็จจริงจะแสดงให้เห็นความบริสุทธิ์ของทุกคนได้รับผลกระทบจากข้อกล่าวหาเหล่านี้