xs
xsm
sm
md
lg

พีดีเฮ้าส์ไม่หวั่น ศก.ครึ่งปีหลังทรุด เร่งเปิดสาขาปั๊มยอดขาย 1.4 พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ภาวะเศรษฐกิจ-กำลังซื้อครึ่งปีหลังส่อแววชะลอตัว เชื่อตลาดรับสร้างบ้านกรุงเทพฯ และปริมณฑลแข่งดุ ส่วน ตจว.แข่งรุนแรงบางพื้นที่ แนะผู้บริโภคอย่าตัดสินใจซื้อเพราะโปรโมชัน ต้องศึกษารายละเอียดก่อนตัดสินใจ พีดีเฮ้าส์ฯ ไม่หวั่น ศก.ชะลอตัว แจงการขยายสาขา 4 ปีที่ผ่านมา หนุนธุรกิจขยายตัวต่อเนื่องทั้งยอดขาย ฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้น ช่วยรักษาตลาดระยะยาว แถมกระจายความเสี่ยง มั่นใจครึ่งปีหลังยอดขายตามเป้า 1.4 พันล้านบาทโตสวนเศรษฐกิจ

นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า เศรษฐกิจ และกำลังซื้อผู้บริโภคในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มชะลอตัว คาดว่าจะส่งผลให้ตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีการแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น เนื่องเพราะมีผู้ประกอบการแข่งขันอยู่จำนวนมาก ขณะเดียวกัน ตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัดในบางพื้นที่ที่มีผู้ประกอบการแข่งขันกันอยู่จำนวนมาก เช่น เชียงใหม่ อุดรธานี ชลบุรี ก็น่าจะแข่งขันรุนแรงเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาส 3 นี้พบว่า บริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำหลายรายเริ่มโหมจัดโปรโมชันออกมาแข่งกันอย่างคึกคักมากขึ้น

“อย่างไรก็ดี โปรโมชัน หรือแคมเปญต่างๆ เป็นเพียงกลยุทธ์ทางการตลาด และการขายของผู้ประกอบการเพื่อหวังจะกระตุ้นการตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น ฉะนั้นผู้บริโภคจึงไม่ควรสนใจเพียงแค่ส่วนลด และของแถม แต่ควรศึกษารายละเอียดของสินค้าหลักให้ดีก่อน หากเข้าใจผิดในสาระสำคัญของสินค้าอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งตามมาภายหลัง”

สำหรับ การรับมือกับภาวะเศรษฐกิจ และกำลังซื้อที่มีแนวโน้มชะลอตัวในครึ่งปีหลังนั้น บริษัทฯ มีการกำหนดทิศทางการแข่งขันและปรับตัวมาเป็นระยะเวลากว่า 4 ปีแล้ว โดยมุ่งเน้นขยายสาขาใหม่ๆ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งในต่างจังหวัด ซึ่งทำให้บริษัทฯ ประสบผลสำเร็จ มีการเติบโตของยอดขายต่อเนื่อง ฐานลูกค้าก็มีจำนวนมากขึ้นกว้างขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการตลาดในระยะยาว

นอกจากนี้ ยังเป็นการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อใดที่เศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว หรือเกิดภัยธรรมชาติในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง อย่างเช่น เมื่อปี 2554 ที่เกิดมหาอุทกภัยขึ้น บริษัทฯ ก็ยังคงมียอดขายเติบโตได้ดี และเติบโตต่อเนื่องมาทุกปี ทั้งนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวในครึ่งปีหลังจึงไม่มีผลต่อการเติบโตของยอดขาย และรายได้รวมบริษัทฯ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น แม้ว่าในบางพื้นที่ยอดขายอาจะไม่เติบโตเพราะมีการแข่งขันกันรุนแรง แต่ในพื้นที่ที่บริษัทฯ เปิดตลาดใหม่ก็มียอดขายมาชดเชย หรือเพิ่มขึ้น

“ที่ผ่านมา ข้อมูลสำรวจความเห็นผู้บริโภคของบางหน่วยงานระบุว่า จำนวนสาขามีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคน้อยมาก โดยก่อนหน้านี้ที่มีการเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ข้อมูลออกมา ยอมรับว่ามีความกังวล และลังเลอยู่บ้าง ซึ่งฝ่ายบริหารก็มีการวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ จนมีผลสรุปว่าควรมีการขยายสาขาเพิ่มทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มาวันนี้ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า บริษัทฯ เดินมาถูกทางแล้ว ปัจจุบัน บริษัทฯ มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 36 แห่ง แบ่งเป็น พีดีเฮ้าส์ 34 สาขา และเอคิวโฮม 2 สาขา และเร็วๆ นี้ เตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 2 สาขา ได้แก่ สมุทรปราการ และราชบุรี เพื่อจะเข้าถึงผู้บริโภค หรือขยายฐานตลาดให้กว้างขึ้น และอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในแต่ละพื้นที่ที่สนใจใช้บริการสร้างบ้านกับบริษัทฯ รวมทั้งเพื่อให้เป็นไปตามเป้ายอดขายที่ตั้งไว้ปีนี้ 1.4 พันล้านบาท” นายพิศาล กล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น