ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-อยากขอบคุณ “ทักษิณ” ที่ส่ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
จั่วหัวอย่างนี้ไม่ได้ประชดประชันใด ๆ ทั้งสิ้น แต่คิดเห็นเช่นนั้นจริง ๆ เนื่องจากเพราะมี “เธอ” คนไทยจึงตาสว่างทั้งแผ่นดิน
ที่ยังงมงายเชียร์แบบไม่ลืมหู ลืมตา ส่วนใหญ่ก็เพราะผลประโยชน์บังใจจนตามืดบอดมองอะไรไม่เห็นเว้นแต่สีของแบ๊งค์
แต่สำหรับคนไทยทั่วไป หลังจากได้เห็นฝีไม้ลายมือด้านการบริหารของยิ่งลักษณ์ ตลอดเกือบสองปีที่ผ่านมา ทั้งงานราษฎร์ งานหลวง งานราชการ ไปจนถึงว.5 ชั้น 7 มาอย่างชัดแจ้ง ย่อมมีคำตอบในใจจากนโยบาย “ทักษิณ คิด เพื่อไทย ทำ ยิ่งลักษณ์ แสดง” แล้วว่า มีความสามารถที่จะทำให้ประเทศไทย “ล่มจม” ได้ทั้งประเทศจริง ๆ
เริ่มเข้ามาบริหารประเทศก็เกิดอาเพทน้ำท่วมครั้งใหญ่ บริหารห่วยแตกจนเศรษฐกิจชาติเสียหายถึง 1.4 ล้านล้านบาท น้ำมิดท่วมหัวประชาชน ยังไม่เท่ากับรัฐบาลเฮงซวยจ้องทำมาหารับประทานกับน้ำบนความเจ็บปวดของประชาชนและความทุกข์ยากของประเทศชาติ
ทุกนโยบายที่นำมาผลักดันเป็นการขยายผลต่อยอดเพิ่มเติมจากประชานิยมสไตล์พี่ชายนักโทษที่อาจเรียกได้ว่า พอทำให้ชาวรากหญ้าเคลิ้มสร้างภาพหลอนให้ยิ้มได้ทั้งวัน จนยังฝันค้างกระทั่งถูกหลอกให้เชื่อว่า “มาร”เป็น “เทพ” และ “ควาย” คือ “สุดยอดแห่งปัญญา”
แต่ประชาล่มจมรุ่นน้องสาวบ้าคลั่งไร้สติมากกว่าพี่ชายนักโทษหลายเท่า เพราะหาเปรียบว่าเป็นสิ่งเสพติด ยุคพี่ชายนักโทษก็แค่เอากัญชามาล่อ แต่ยุคน้องสาวเล่นฉีดเข้าเส้นไม่สนอันตรายที่จะเกิดขึ้น ทั้งกับประเทศและประชาชนที่ถูกฉีดยา
การกำหนดนโยบายที่ใช้เงินแผ่นดินสูง แต่นอกจากจะไร้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อประเทศชาติ แล้ว ยังทำบ้านเมืองเจ๊งยับจนเห็นความวิบัติมาอยู่ตรงหน้าจากการบริหารของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กำลังย้อนศรกลับไปทิ่มแทง พี่ชายนักโทษและรัฐบาลน้องสาวอย่างแรงในขณะนี้
โครงการรถยนต์คันแรกใช้เงินกว่า 9 หมื่นล้าน เกิดปัญหาตามมามากมาย ทั้งทิ้งการจอง คนไทยหนี้เพิ่ม ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง กระทบกำลังซื้อผู้บริโภค ฯลฯ ส่วนการลดภาษีนิติบุคคลจาก 30 เป็น 23 และ 20% ในปีนี้ ทำให้นายทุนรายใหญ่ได้ประโยชน์ทันที
ขณะที่รัฐเสียรายได้จากการเก็บภาษี 1.5 แสนล้านบาท เฉพาะสองส่วนนี้ก็ผลาญงบประมาณชาติไปแล้ว 2.4 แสนล้านบาท
มาถึงโครงการรับจำนำข้าวรัฐบาลใช้เงินไป 661,224 ล้านบาท ขาดทุนไปแล้ว 2.2 แสนล้านบาท (ข้อมูลอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ณ วันที่ 1 ม.ค.56) ยังไม่รวมดอกเบี้ยอีกราว 4 หมื่นล้านบาท รวมเจ๊งแล้ว 2.6 แสนล้าน และรอเจ๊งจากมูลค่าข้าวในสต๊อค 17 ล้านตันที่จะได้รับผลกระทบทันที 51,000 ล้านบาท จากการลดราคาจำนำลง 3 พันบาท ยังไม่นับค่าเสื่อมสภาพราว 20 % ต่อปี สต๊อคลม เผาโกดัง ข้าวเน่า ฯลฯ
ประมาณการแล้วภายในสองปีประเทศไทยเสียหายจากการที่ “ทักษิณ คิด ยิ่งลักษณ์ ทำ”ไม่น่าจะต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท รวมกับรถยนต์คันแรกและลดภาษีนิติบุคคล ก็ผลาญเงินชาติไปจิ๊บ ๆ แค่ 6.4 แสนล้านบาทเท่านั้นเอง !
ยังไม่รวมกับการกู้เงิน 3.5 แสนล้าน ทำโครงการน้ำที่ถูกเบรคจากศาลปกครองไปแล้ว เพราะไม่มีการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 57 และ 67 ในการรับฟังประชาชนที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการของรัฐบาล ซึ่งถ้าดื้อด้านเดินหน้าต่อไปจะก่อหนี้ให้กับคนไทยยาวนาน 50 ปี รวมดอกเบี้ยบวกต้นจะเป็นยอดเงิน 7.5 แสนล้านบาท
เมื่อนำมาบวกกับยอดสามโครงการประชานิยมข้างต้น จะได้ตัวเลขที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ กำลังเสกเงินแผ่นดินทั้งปัจจุบันและอนาคตให้หายวับไปในอากาศรวม 1.39 ล้านล้านบาท
และหากรัฐบาลคลอดเงินกู้สองล้านล้านบาทได้สำเร็จ คนไทยจะเป็นหนี้ชั่วลูกหลานอีก 50 ปี ใช้หนี้กันหัวบานทั้งต้นและดอกเบี้ยรวม 5.16 ล้านล้านบาท
รวมกับยอดที่บวกไว้ข้างต้นก็แค่ 6.55 ล้านล้านบาทเท่านั้นเอง !
ถ้าไม่ใช่ ทักษิณ คิด ยิ่งลักษณ์ ทำ ประเทศไทยก็คงไม่มีโอกาสแบบนี้
แถมไอ้ที่คุยนักคุยหนาว่าเก่งกาจสามารถเป็นซีอีโอภาคธุรกิจ เชี่ยวชาญด้านงานบริหาร ก็พิสูจน์ฝีมือแล้วว่า การโยกบัญชี ซุกหนี้ และความโง่เง่าผสมความโลภจากโครงการจำนำข้าว กำลังทำให้ไทยเสี่ยงต่อการถูกลดเครดิตประเทศ
การขยายตัวเศรษฐกิจปี 2556 ผ่านมาครึ่งปีแรกอัตราการขยายตัวต่ำกว่าเป้า จนสภาพัฒน์ฯลดประมาณการเศรษฐกิจลงจาก 4.5-5.5% เหลือ 4.2-5.2% ในขณะที่เศรษฐกิจภายนอกเริ่มมีความผันผวนมากขึ้น แต่รัฐบาลไทยกลับเป็นผู้ทำลายความเข้มแข็งภายในของเศรษฐกิจไทยลง จนน่าเป็นห่วงว่ายังเหลือความแข็งแกร่งมากพอที่จะเป็นภูมิคุ้มกันไทยจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่อาจเกิดขึ้นอีกระลอกได้หรือไม่
จึงขอขอบคุณนักโทษชายทักษิณ อีกครั้ง ที่ส่ง ยิ่งลักษณ์ มาทำให้คนไทยตาสว่าง ซึ่งไม่ได้ส่งผลสะท้อนถึง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ขาลงเท่านั้น แต่ระบอบทักษิณ ก็อยู่ในอาการพังพาบไม่แตกต่างกัน หลังพ่นพิษใส่ประเทศไทยมายาวนานกว่า 10 ปี
ปรากฏการณ์หน้ากากขาวและกระแสต่อต้านรัฐบาลอาจเป็น “ฟืนเปียก” อย่างที่ฝ่ายรัฐบาลกล่าวอ้าง เพียงแต่บังเอิญไม่ใช่ “ฟืนเปียกน้ำ” หากเป็น “ฟืนเปียกน้ำมัน” ที่พร้อมจุดติดทุกเมื่อ แถมส่งต่อก่อให้เกิดไฟดวงใหม่จนสว่างพรึ่บทั้งประเทศ
ขับไล่ “กาลี”ออกจากอำนาจ ด้วยการตื่นรู้ของประชาชน ผ่านการโค่นล้มด้วยมือของคนไทยในการเลือกตั้งที่น่าจะมาถึงในอีกไม่นานนี้
และเมื่อถึงวันนั้น “ระบอบทักษิณจะสิ้นซากไปจากแผ่นดินไทย” อย่างถาวร โดยไม่สามารถใช้คนไทยมาเป็นอาวุธทำร้ายประเทศไทยได้อีกต่อไป