xs
xsm
sm
md
lg

LVT คว้างานใหม่ 1,800 ล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“แอล.วี.เทคโนโลยี” คว้างานมูลค่ารวม 1,800 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ทะยานแตะ 3,800 ล้านบาท คาดผลงานปีนี้จะพลิกกำไรได้ในรอบ 3 ปี เชื่อหลังร่วมลงทุนผลิตปูนซีเมนต์กับกลุ่มบริษัท Max Manufacturing ในพม่า ส่งผลให้บริษัทฯ มีสินทรัพย์ถาวรที่จะสามารถสร้างทั้งรายได้ และกำไรในระยะยาว คาดได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้

นายแฮนส์ จอร์แกน เนียลเซ่น ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอล.วี.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ LVT ผู้นำธุรกิจด้านการให้บริการวิศวกรรม ออกแบบ คิดค้น พัฒนา จัดหา และควบคุมการติดตั้งอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในหลายประเทศทั่วโลก เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2556 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เร่งหางานใหม่อย่างต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จโดยได้ลงนามเซ็นสัญญารับงานจำนวน 4 โครงการ มูลค่าเกือบ 1,800 ล้านบาท ดังนี้โครงการ Max Cement Pyi Nyaung (Max 2) ประเทศพม่า มูลค่า 29 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 870 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ จะออกแบบด้านวิศวกรรม จัดหาเครื่องจักรอุปกรณ์ และติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์สำหรับแปลงระบบการผลิตปูนซีเมนต์แบบเปียก และเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็น 2,100 ตันต่อวัน ระยะเวลาดำเนินงาน 18 เดือน

โครงการ Cimentos Liz Pozzolan Kiln ประเทศบราซิล มูลค่า 13.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ  417 ล้านบาท บริษัทฯ จะออกแบบด้านวิศวกรรม และจัดหาเครื่องจักรอุปกรณ์สำหรับโรงงานผลิตปอซโซลาน กำลังการผลิต 1,500 ตันต่อวัน ระยะเวลาดำเนินงาน 18 เดือน

โครงการรับเหมาสำหรับเพิ่มกำลังการผลิตของระบบการเผาปูนซีเมนต์ขาว ประเทศมาเลเซีย มูลค่า 8.974 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 269.22 ล้านบาท บริษัทฯ จะออกแบบด้านวิศวกรรม จัดหาเครื่องจักรอุปกรณ์ ก่อสร้างและติดตั้งเพิ่มกำลังการผลิตของระบบการเผาปูนซีเมนต์ขาว ระยะเวลาดำเนินงาน 15 เดือน

โครงการ Max Cement (Max1) ประเทศพม่า โดยโครงการนี้เป็นสัญญาเพิ่มเติม มูลค่า 7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 210 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ จะแปรรูปและติดตั้งเครื่องจักรของโครงการแปลงระบบการผลิตปูนซีเมนต์แบบเปียก และเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2,100 ตันต่อวัน

“หลังจากฝ่ายการตลาดของบริษัทฯ ได้เร่งหางานใหม่อย่างต่อเนื่อง มาวันนี้บรรลุผลสำเร็จเป็นอย่างดี บริษัทฯ ได้งานใหม่ 3 โครงการ และสัญญาเพิ่มเติมอีก 1 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 1,800 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่างานที่อยู่ระหว่างการรอรับรู้รายได้(Backlog) ของบริษัทฯ ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3,800 ล้านบาทจากสิ้นปี 2555 ที่มีอยู่ 2,000 ล้านบาท” นายเนียลเซ่นกล่าว

ทั้งนี้ จากงานใหม่ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บวกกับการที่บริษัทฯ ได้ขายหุ้นบางส่วนใน บริษัท แอล เอ็น วี เทคโนโลยี ไพรเวท จำกัด หรือ LNVT ซึ่งเป็นบริษัทลูกในประเทศอินเดีย มูลค่ารวมประมาณ 260 ล้านบาท และเมื่อหักต้นทุนแล้วจะมีกำไรประมาณ 157 ล้านบาท จากปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะพลิกกลับมีกำไรสุทธิได้ในรอบ 3 ปี โดยปี 2553-2555 บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 239.07 ล้านบาท 23.88 ล้านบาท และ 293.20 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากผู้ถือหุ้น โดยได้รับเงินทั้งสิ้น 215 ล้านบาท และยังจะได้รับเงินอีกประมาณ 64 ล้านบาท จากการจัดสรรหุ้นอีกจำนวน 51,000,000 หุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัด หรือ PP และเมื่อรวมกับรายได้จากการขายบริษัทลูก (LNVTในประเทศอินเดีย) ทำให้ฐานะการเงินของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง สามารถรองรับการเจริญเติบโตได้อย่างมั่นคงต่อไปในอนาคต โดยบริษัทฯ จะเข้าร่วมลงทุนกับกลุ่มบริษัท Max Manufacturing ในการผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศพม่า ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมหาศาล และจะทำให้บริษัทฯ มีสินทรัพย์ถาวรที่จะสามารถสร้างทั้งรายได้ และกำไรในระยะยาว คาดว่ารายละเอียดในการเพิ่มทุนจะได้ข้อสรุปใน เร็วๆ นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น