แอล.วี.เทคโนโลยี พลิกฟื้นทันที หลังขายหุ้นในบริษัทย่อย LNVT 30.50% มูลค่าประมาณ 260 ล้านบาท ให้แก่ Sinoma รับรู้กำไรประมาณ 157 ล้านบาท และยังคงถือหุ้น 16% เพื่อรับรู้รายได้ในอนาคต เชื่อศักยภาพของพันธมิตรใหม่จะช่วยให้ LNVT มีผลตอบแทนที่ดีกลับคืนมาให้แก่บริษัท ผู้บริหารเผยจะนำเงืนที่ได้ไปพัฒนา และขยายธุรกิจ รวมถึงเลือกลงทุนถือหุ้นในโครงการที่มีศักยภาพสูง เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงสม่ำเสมอในอนาคต
นายแฮนส์ จอร์แกน เนียลเซ่น ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอล.วี.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ LVT ผู้นำธุรกิจด้านการให้บริการวิศวกรรม ออกแบบ คิดค้น พัฒนา จัดหา และควบคุมการติดตั้งอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในหลายประเทศทั่วโลก เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2556 มีมติอนุมัติจำหน่ายหุ้นสามัญจำนวน 30.50% ในบริษัท แอล เอ็น วี เทคโนโลยี ไพรเวท จำกัด หรือ LNVT ซึ่งเป็นบริษัทลูก ให้แก่บริษัท Sinoma International Engineering Company Limited หรือ Sinoma ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ของประเทศจีน และของโลก ราคาขายประมาณหุ้นละ 69.93 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทรวมประมาณ 260.09 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2555)
“บริษัทจะรับรู้กำไรจากการขายหุ้น LNVT ประมาณ 157 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้น LNVT ไปใช้ในการพัฒนา และขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต และบริษัทเชื่อว่าหลังจากนี้เป็นต้นไป ผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการรับเหมางานโครงการผลิต และปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานปูนซีเมนต์ในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะประเทศพม่า บราซิล มาเลเซีย และซาอุดีอาระเบีย รวมถึงการขยายโอกาสทางธุรกิจในการเข้าไปรับงานโครงการระบบการจัดเก็บถ่านหินแบบปิด เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่เริ่มจากโครงการวัดบันได ของบริษัท เอสซีจี เทรดดิ้ง จำกัด นอกจากนี้ ในอนาคตบริษัทจะเลือกลงทุนถือหุ้นในโครงการที่มีศักยภาพสูง เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงสม่ำเสมอในอนาคตอีกด้วย”
ทั้งนี้ เดิม LVT ถือหุ้นใน LNVT จำนวน 49% หรือ 196,000 หุ้น ภายหลัง LVT ขายหุ้นออกไป 30.50% หรือ 122,000 หุ้น และ LNVT จะทำการเพิ่มทุนอีก 62,500 หุ้น โดยที่ LVT สละสิทธิการซื้อหุ้นเพิ่มทุน จะทำให้ LNVT ยังคงถือหุ้นใน LNVT อยู่จำนวน 74,000 หุ้น หรือคิดเป็น 16% ของทุนจดทะเบียนหลังการเพิ่มทุนของ LNVT ซึ่งเชื่อว่าสัดส่วนการลงทุนที่เหลืออยู่นี้ จะยังคงสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัทในอนาคต เนื่องจาก Sinoma จะเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ LNVT มากยิ่งขึ้น อีกทั้งประเทศอินเดียก็มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สูงมาก ทำให้เชื่อว่าความต้องการใช้ปูนซีเมนต์จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายเนียลเซ่น กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมามีบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้างหลายรายที่สนใจจะเข้ามาซื้อหุ้นที่บริษัทถืออยู่ใน LNVT แต่บริษัทตัดสินใจขายให้แก่ Sinoma เนื่องจากได้ราคาที่ดีสุด สำหรับ LNVT เป็นบริษัทร่วมทุนกับนักธุรกิจชาวอินเดีย ประกอบธุรกิจบริการด้านวิศวกรรม ทุนจดทะเบียนจำนวน 5,000,000 รูปีอินเดีย แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 400,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 รูปีอินเดีย โดย LVT ถือหุ้นจำนวน 49% คิดเป็นจำนวน 196,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 10 รูปี โดย LVT ขายหุ้นจำนวน 30.50% หรือ 122,000 หุ้นราคาต่อหน่วย 69.93 ดอลลาร์สหรัฐ มูลค่ารวมประมาณ 8,532,129 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาทอยู่ที่ประมาณ 260.09 ล้านบาท จากอัตราแลกเปลี่ยน 30.4857 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2555